1. SistaCafe
  2. แก้ง่วงในที่ทำงาน มัดรวม 7 วิธีช่วยให้ชาวออฟฟิศกระปรี้กระเปร่า ฉบับไม่ดื่มกาแฟ !

สวัสดีชาวซิสและผู้อ่านทุกท่านที่เป็นชาวออฟฟิศเลยนะค้า ♥ช่วงนี้ฝนตกบรรยากาศชวนเคลิ้มให้หลับง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ จากที่ปกตินั่งทำงานก็แอบง่วงอยู่แล้ว ตอนนี้คือตาจะปิดยิ่งกว่าเดิมไปอี๊กกก~ แต่จะให้ไปซื้อชา กาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก็กลัวว่าคืนนี้จะนอนไม่หลับ ปัญหานี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องประสบพบเจอแน่ ๆ เลยใช่ม้า? งั้นเอางี้ค่ะมาดู 7 วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานให้ชาวออฟฟิศแบบไม่พึ่งคาเฟอีนกันดีกว่าไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทำได้จริง ๆ นะเออแต่จะมีวิธีอะไรบ้างก็ต้องมาดูกันด้านล่างนี้เล้ยยยย!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


บอกต่อ 7 วิธี แก้ง่วงในที่ทำงาน ฉบับไม่ดื่มกาแฟ !


แก้ง่วงในที่ทำงาน วิธีที่ 1. เลี่ยงการกินคาร์โบไฮเดรตเยอะ ๆ ในมื้อกลางวัน

ภาพประกอบบทความ:&ratio=0.000

เริ่มต้นด้วยข้อแรกอย่างการกินเลยค่ะ ส่วนใหญ่ชาวออฟฟิศจะชอบง่วงช่วงหลังมื้อเที่ยงกันเป็นส่วนใหญ่ คำแนะนำในข้อนี้ก็เลยจะเป็นการเลี่ยงการทานคาร์โบไฮเดรตเยอะ ๆนั่นเองค่ะ คือช่วงเที่ยงถ้าพยายามทานพวกผักหรือเนื้อสัตว์ให้เยอะกว่าพวกแป้ง พวกข้าว ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ก็จะทำให้รู้สึกง่วงน้อยลงค่ะ เนื่องจากว่าพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเมื่อผ่านการย่อยแล้วร่างกายจะกลั่นกรองเป็นกลูโคส ซึ่งเจ้ากลูโคสมันจะเข้าสู่ระบบประสาททำให้ช่วยลดความตึงเครียดลงได้ และเมื่อเราเครียดน้อยลงเราก็จะง่วงมากขึ้นนั่นเองดังนั้นพยายามเลี่ยงทั้งคาร์โบไฮเดรตและของที่มีน้ำตาลผสมเยอะ ๆ กันเน้อ


วิธีแก้ง่วงตอนทำงาน ที่ 2. จิบน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2Fc704299d-b4b7-40b7-95c8-0215beac34b0.jpeg?v=20240303181342&ratio=1.133

จริง ๆ แล้วการดื่มน้ำที่ดีคือการดื่มน้ำอุณหภูมิห้องนะคะ แต่ว่าถ้าเรากำลังง่วง ๆ จะให้ดื่มน้ำธรรมดาก็ไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ ดังนั้นแนะนำให้ทุกคนดื่มน้ำเย็นแทนค่ะ น้ำเย็นที่ว่าไม่เอาน้ำหวาน น้ำอัดลมนะคะ เอาเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุด ใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ได้แล้วก็ทยอยจิบเรื่อย ๆ เริ่มปากแห้งก็จิบนิดนึง ๆ ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้เราสดชื่นมากขึ้น ตื่นตัวมากขึ้นแล้วก็ยังช่วยทำให้เราดื่มน้ำในแต่ละวันได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันมันก็จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ระบบขับถ่ายดีขึ้น ผิวพรรณชุ่มชื้น หน้ามันน้อยลง ผิวไม่แห้งแตกลอกเป็นขุยด้วยนะเออ


แก้ง่วงชาวออฟฟิศ วิธีที่ 3. เคี้ยวหมากฝรั่ง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2Ffd8f5a6e-74a3-483f-8608-8b4c6e2f9f24.jpeg?v=20240303181342&ratio=1.168

อีกวิธีที่ใช้แล้วได้ผลกับตัวเองมาก ๆ แล้วอยากแนะนำต่อก็คือการเคี้ยวหมากฝรั่งนั่นเองนะคะ ก็จริงอยู่ที่ว่าน้ำตาลมันค่อนข้างจะทำให้ง่วงได้ง่ายแต่หมากฝรั่งมันต้องเคี้ยวตลอด ๆ ทำให้ช่วงปากเราต้องขยับตลอดเวลาเพราะถ้าไม่ขยับก็อาจจะเผลอกลืนหมากฝรั่งจนติดคอได้ และเพราะต้องขยับปากตลอดนี่แหละค่ะเลยทำให้เราง่วงน้อยลงแต่ก็ต้องระมัดระวังการกินมากไปด้วยนะคะเพราะหมากฝรั่งมีน้ำตาล แถมถ้าเคี้ยวมากไปก็อาจจะปวดฟันหรือปวดกรามได้ด้วย อีกอย่างคืออย่าเผลอเคี้ยวแจ๊บ ๆ เสียงดังล่ะ!


วิธีทำให้หายง่วง ที่ 4. ลุกขึ้นเดินหรือขยับตัวบ้าง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2F27b5daaa-9e84-4174-ac7b-f71bfa055120.jpeg?v=20240303181342&ratio=1.192

หลายคนพอยิ่งง่วงยิ่งไม่อยากขยับตัวไปไหนแต่ในความเป็นจริงแล้วการขยับตัวนี่แหละค่ะที่จะช่วยให้เราตื่นตัวมากขึ้นจะเดินไปเข้าห้องน้ำ เดินไปเติมน้ำ เดินไปสูดอากาศอะไรก็ตามแต่ขอแค่ได้ลุกได้เดินหน่อยก็สามารถทำให้ไม่ง่วงได้แล้ว หรือถ้าใครไม่สะดวกลุกในบางสถานการณ์แต่ง่วงไม่ไหวแล้วก็ขยับตัวกับเก้าอี้ก็ได้นะคะ บิดไปบิดมาบ้าง ร่างกายจะได้ตื่นตัวยิ่งช่วงนี้หน้าฝนยิ่งทำให้เราไม่อยากขยับนี่ยิ่งต้องพยายามขยับให้มากขึ้นเลยนะคะ


วิธีแก้ง่วงชาวออฟฟิศ ที่ 5. ดมยาดมให้ชื่นใจ

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2F0f969afd-4d27-4b61-a069-ad5c14e5b3e2.jpeg?v=20240303181342&ratio=1.249

เป็นวิธีที่หลายคนอาจจะทำบ่อยหรือบางคนอาจจะไม่รู้เลยก็คือการดมยาดมจ้า ที่การดมยาดมทำให้เราตื่นตัว ไม่ง่วงเพราะว่ายาดมมีส่วนผสมที่สูดดมเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกเย็น รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ ดังนั้นการดมยาดมก็เลยช่วยทำให้เราหายง่วงได้นั่นเองจ้า แต่ ๆ ใครที่รู้แบบนี้แล้วกะจะเอายาดมยัดจมูกค้างไว้นี่ขอเตือนเลยน้าว่าอย่าทำเด็ดขาดเลยอันตรายมาก ๆ เน้อ อย่างที่บอกเลยว่ายาดมมีส่วนผสมที่ทำให้รู้สึกสดชื่นและเย็น ซึ่ง

ถ้าดมมากเกินไปหรือสูดเข้าไปแบบแรง ๆ จะทำให้เยื่อโพรงจมูกอักเสบได้เหมือนกัน

ยังไงก็ใช้กันอย่างระมัดระวังด้วยน้า


วิธีแก้ง่วงเวลาทำงาน ที่ 6. ล้างหน้าหรือใช้ผ้าเช็ดตัว

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2Fd305f7ff-b637-40f5-b0af-8834589655d2.jpeg?v=20240303181343&ratio=1.000

สำหรับชาวออฟฟิศที่ไม่ได้แต่งหน้าแนะนำว่าให้เดินไปล้างหน้าเลยค่ะ ล้างหน้าที่ว่าคือ

แค่เอาน้ำสะอาดล้างเบา ๆ

นะคะ ไม่ใช่การใช้คลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้าเน้อ ล้างสักหน่อยจะทำให้ผิวมันเย็นแล้วก็จะได้ตื่นตัวขึ้น แต่ถ้าเราเป็นคนแต่งหน้าไปทำงานจะให้เอาน้ำมาโดนเมคอัพก็คงจะไม่ไหวจริง ๆ งั้นก็หันมาใช้ผ้าเย็นแทนลยค่ะ เช็ดช่วงคอ ช่วงแขนหน่อย ๆ ให้ความเย็นมันปะทะกับผิวหนังให้สดชื่น ร่างกายจะได้ตื่นไม่รู้สึกง่วงหรืองัวเงียอ้อ! คนที่ไม่แต่งหน้าแล้วใช้น้ำล้างหน้าอย่าลืมทากันแดดทับด้วยนะคะเพราะกันแดดบางตัวไม่กันน้ำ มันอาจจะหายไปตอนล้างหน้านะจ๊ะ > _ <


วิธีแก้ง่วงเห็นผลที่ 7. ถ้างีบได้ก็งีบเลย!

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F96958%2Fb6d93ae3-eca0-4daa-9de9-418cf4560d07.jpeg?v=20240303181343&ratio=1.333

วิธีสุดท้ายถ้าลองพยายามทำทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังง่วงอยู่ดี ก็ลองใช้เวลาช่วงหลังทานข้าวกลางวันก็ได้ค่ะ ฟุบงีบสักแป๊บนึง โดยระยะเวลาที่เขาบอกว่าเป็นการงีบที่ดีที่สุดก็คือ 15 นาทีเท่านั้นนะคะ ร่างกายจะไม่งัวเงีย ไม่หลับแบบสนิทเกินไปแต่ก็ถือว่ายังได้พักผ่อนนิดหน่อย แม้ว่าช่วงหลังจากงีบอาจจะมีอาการง่วง ๆ หน่อย ๆ อยากหลับต่อมาก ๆ แต่ถ้าอยู่ไปสักพักจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นแล้วก็จะไม่ค่อยรู้สึกง่วงเท่าไหร่ด้วยนะคะ ส่วนตัวเคยลองแล้วเห็นผลดีมาก ๆ เลย ใครพอจะงีบได้อยากให้ลองเน้อ :-D


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


ครบทั้ง 7 วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานช่วยชาวออฟฟิศให้กระปรี้กระเปร่าแล้วค่า~ใครยังไม่เคยลองวิธีไหนก็ไปลองกันได้น้าเผื่อว่าจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวมากขึ้นในช่วงบ่าย ๆถ้าวิธีไหนยังไม่ค่อยได้ผลก็ลองเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก่อนนะคะพยายามเลี่ยงการไปดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนให้ได้มากที่สุดไม่งั้นกลางคืนเราอาจจะนอนไม่หลับแล้วทำให้เช้าวันต่อมาง่วงกว่าเดิมเน้อ บาลานซ์ให้ดี ๆ นะคะ เพื่อที่จะได้ทำงานแบบสดชื่น ๆ แล้วก็ได้สุขภาพที่ดีขึ้นด้วยนะเออ เอาล่ะ! ตอนนี้ก็หมดหน้าที่ของเราแล้วค่า ขอตัวลาทุกคนไปก่อนน้า แล้วกลับมาพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย ♥


บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้