1. SistaCafe
  2. ☀ซัมเมอร์นี้เอาอยู่!! เจาะลึก ค่า SPF และค่า PA ในครีมกันแดดแต่ละอันคืออะไร ต้องเลือกอย่างไร✍

หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่าเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ ประเทศไทยก็เหมือนย้ายพิกัดไปอยู่นรกซะอย่างนั้น โอ๊ยย ร้อนไม่ไหววว นาทีนี้ไม่ว่าจะเดินสวนคนไปทางไหนก็มักจะพบว่าท่ามกลางแดดจ้า ใครๆ ก็ล้วนประสบปัญหาเดินไปปาดเหงื่อไป หาวิธีหลบแดดยังไงไม่ให้เสี่ยงต่อการหน้าไหม้ คล้ำแดดหรือแม้กระทั่งผิวเหี่ยวย่นและอีกสารพัดปัญหาหลายคนเลยรีบมองหาตัวช่วยเป็นครีมกันแดด เตรียมทาตามเทรนด์สองข้อนิ้วจุกๆ ท่องมาจากบ้านอย่างดีว่างานนี้ทาแล้วต้องไม่วอก!! แต่ดันต้องมายืนงงตอนอ่านฉลากว่าSPF กับ PA คืออะไร แล้ว SPF กับ PA เนี่ยมันต่างตรงไหนต้องเลือกยังไงวันนี้เราจะมาเฉลยข้อข้องใจให้ได้รู้กันค่าาา


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F89664%2Faa7aa3f2-5512-4f79-9027-b0877da91e7a.png?v=20240313173140&ratio=1.000

รังสี UV กับปัญหาผิว

ก่อนจะหาคำตอบว่าSPF กับ PA คืออะไร หรือSPF กับ PA ต่างกันยังไงอันดับแรกเราต้องมาทำความรู้จักกับต้นตอของปัญหาที่ทำให้เราต้องทาครีมกันแดดกันก่อน


☀รังสี UV คืออะไร?รังสี UV หรือรังสี Ultraviolet เป็นแหล่งพลังงานจากดวงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ในช่วงความถี่ 200-400 nm. เป็นรังสีที่มนุษย์เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ร้ายกาจกับสภาพผิวเราเป็นอย่างมาก!ประกอบไปด้วย 3 ประเภทด้วยกัน☀รังสี UVA

เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นมากกว่า UVB จึงสามารถทะลุไปถึงผิวชั้นหนังแท้ได้และก่อให้เกิดปัญหาผิวเสื่อมสภาพโดยการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเราเหี่ยวย่น มีริ้วรอยก่อนวัยอันควร☀รังสี UVBเป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าUVA แม้ความสามารถในการทะลุชั้นผิวของ UVB จะน้อยกว่าแต่ก็อนุภาพความแรงก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย เพราะ UVB ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาผิวไหม้ ผิวแดงและคล้ำแดดได้☀รังสี UVC

เป็นรังสีที่ความยาวคลื่นสั้นที่สุดแต่ถือว่าเป็นอันตรายที่สุด แต่ความโชคดีคือรังสี UVC จะถูกชั้นบรรยากาศโอโซนดูดซับไว้จึงทำให้อัตราการผ่านลงมายังพื้นโลกน้อยมากหรือแทบจะไม่มี

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿



ทำยังไงถึงจะป้องกันผิวจากรังสี UV ได้?

ไม่ว่าจะเป็นวันแดดจ้าพร้อมลุยกิจกรรมโลดโผนหรือแม้แต่วันที่หลบแดดไปนอนซมอยู่บ้านอย่างเหงาๆ ก็คงไม่พ้นถูกทำร้ายด้วยรังสีเหล่านี้อยู่ดี ดังนั้นแต่ละคนก็จะสรรหาวิธีเอาตัวรอดจากแดดประเทศไทยแตกต่างกันไป อย่างเช่นบางคนพกความชิคมาพร้อมกับแว่นกันแดดสุดเก๋ บางคนก็พกร่ม หรือแม้แต่สวมหมวกปีกกว้างบ้างและแน่นอนว่าหนึ่งในวิธีที่ชาวเรานึกถึงอันดับต้นๆ ก็คงไม่พ้นการทาครีมกันแดดใช่ไหมล่ะคะ อะๆ คำถามต่อมาก็คงไม่พ้นแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ากันแดดจะช่วยปกป้องผิวได้มากแค่ไหน? ต้องใช้อะไรวัดล่ะ? นี่แหละคือที่มาของSPF และ PA เพราะทางผู้เชี่ยวชาญเค้าสร้างมาตรฐานวัดประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์กันแดดด้วยค่า SPF และ PAที่เรารู้จักกันดีนั่นเอ๊งงง


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿



SPF ( Sun Protection Factor )

SPF คือการวัดความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการปกป้องผิวหนังจากรังสี UVB

ตัวอย่างเช่น ถ้าปกติผิวจะไหม้หลังจากออกแดด 10 นาที การทาครีมกันแดด SPF15 จะช่วยให้อยู่ในแดดได้นานขึ้น 15x10 = 150 นาที (15 เท่า) *ขึ้นอยู่กับประเภทผิว ความเข้มของแสงแดด และอีกหลายปัจจัย


ค่าSPF              ประสิทธิภาพในการป้องกัน

SPF 6    -  <15                 ต่ำ

SPF 15  -  <30               กลาง

SPF 30  -  <50                 สูง

SPF          ≥50             สูงมาก



SPF ยิ่งสูงยิ่งดี?

หลายๆ คนคิดว่ายิ่งค่า SPF สูงยิ่งดี แต่หากลองเทียบกันจริงๆ นั้นระหว่าง SPF ที่มากกว่า 50 กับ SPF 50 กลับพบว่ามีความต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า SPF15-30 ถือว่าเพียงพอ แต่ถ้าต้องสู้กับแดดบ้านเราแนะนำว่า SPF ควร 30 ขึ้นไปนะคะ และสิ่งสำคัญที่สุดคือควรทาซ้ำทุกๆ สองชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวที่ดีที่สุด


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿



PA ( Protection grade of UVA )

PA คือการวัดความสามารถของผลิตภัณฑ์ในการปกป้องผิวหนังจากรังสี UVA

เครื่องหมาย + ต่อท้าย PA คืออะไร?

เรามักจะได้ยินจากโฆษณาหรือเห็นบนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดว่า PA++++ กันจนคุ้นชินแต่เคยสงสัยกันบ้างไหมคะว่าเครื่องหมายบวกที่ตามหลัง PA นี้มีความหมายว่ายังไงกันน้า


ค่าPA    ประสิทธิภาพในการป้องกัน

PA+                 ต่ำ-กลาง

PA++                  กลาง

PA+++                  สูง

PA++++             สูงมาก


ใช่แล้ววว เครื่องหมายบวกแสดงถึงประสิทธิภาพในการป้องกันUVAที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง




เลือก PA ยังไงดี

เลือกค่า PA ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราจะดีที่สุด ถ้าเป็นวันอยู่บ้านสบายๆ ก็อาจจะใช้แค่ PA++ แต่ถ้าต้องออกไปสู้ชีวิตข้างนอกก็อาจจะเลือกใช้ PA+++ จะได้ไม่โดนชีวิตสู้กลับ หรือถ้าออกไปทำกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมการแจ้งนานๆ ก็ควรเลือก PA++++ ไปโล้ดดดเพราะแดดเมืองไทยมันเกินต้านจริงๆ

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


ประเภทของครีมกันแดด

จากความก้าวหน้าในวงการการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง จึงทำให้ปัจจุบันกันแดดไม่ได้มีอยู่ในรูปแบบครีมเพียงเท่านั้นแต่รวมไปถึงมีกันแดดแบบเจล แท่ง สเปรย์ โลชั่น และแบบอื่นๆให้เลือกสรรตามใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ( U.S. FDA ) ยังไม่อนุมัติกันแดดในรูปแบบทิชชู่เปียก แป้ง สบู่หรือแชมพู แถมเค้ายังแอบๆ เตือนว่ากรุณาอ่านฉลากการใช้งานของกันแดดแต่ละประเภทอย่างละเอียดนะคะซิส อย่างกันแดดแบบสเปรย์แบบนี้ก็อาจไม่เหมาะสมกับการใช้กับผิวหน้า เพราะเวลาเราฉีดมันจะมีละอองความฟุ้งลอยไปตามลมใดๆทำให้ไม่ค่อยติดผิวหน้าประสิทธิภาพ SPF หรือ PA ในการป้องกันรังสีจึงอาจจะน้อยลงเมื่อเทียบกับการทากันแดดแบบอื่นๆ นั่นเอง


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

ท่องไว้ให้ขึ้นใจ!!!

SPF ป้องกัน UVBPA   ป้องกัน  UVA

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F89664%2F8e03eea9-a635-43aa-9bb9-4460b90612e7.png?v=20240313173140&ratio=1.380

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


Broad spectrum sunscreen

ทำไมเราต้องเลือกในเมื่อเราสามารถมีได้ทั้งหมด?

Broad spectrum sunscreen จึงเป็นทางเลือกที่ครอบคลุมที่สุด เพราะมีทั้ง SPF และ PA จึงสามารถป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB ในผลิตภัณ์เพียงตัวเดียว จะหน้าไหม้หรือหน้าเหี่ยวก็รอดดด เวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ก็ให้ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี Titanium dioxide หรือ Zinc oxide เป็นส่วนผสมดูน้าา



ข้อแนะนำในการทากันแดด

✦ ทากันแดดก่อนออกไปข้างนอก 15 นาที เพื่อรอให้กันแดดเซตตัวและมีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

✦ ทาให้ทั่วใบหน้าและร่างกาย หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและปาก

✦ ห้ามทากันแดดให้กับกับทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน นอกจากจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์

✦ รู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อน! ตัวอย่างเช่น คนผิวขาวจะมีความเสี่ยงต่อการดูดซับรังสี UV มากกว่าคนผิวเข้ม ดังนั้นจึงควรใช้กันแดดที่ค่า SPF เริ่มต้นที่ 30 ขึ้นไป

✦ ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นหากทำกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อหรือกิจกรรมทางน้ำ

✦ กันแดดมีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 3ปี หากใช้นานกว่านั้นประสิทธิภาพในการป้องกันของ SPF PA อาจจะลดลงและไม่เสถียร



✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿



ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F89664%2F9327af61-fa57-4f68-9944-ad69f9cf2ccf.png?v=20240313173140&ratio=1.000

ถ้านึกถึงกันแดดที่เหมาะกับแดดเมืองไทย ตัวที่เราแนะนำเลยก็คือANESSA Gold Milkเป็นกันแดดที่ใครหลายๆ คนก็คงรู้จัก ตัวนี้เค้าเป็นBroad spectrum sunscreenด้วยนะ มาพร้อมกับSPF50+และPA++++ปกป้องได้ทั้ง UVA และ UVBจึงมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถออกไปทำกิจกรรมได้อย่างหมดห่วง! ความพิเศษคือ มีเทคโนโลยีThermo Booster Technologyช่วยปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับความร้อนจากแสงแดด แถมยังผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง, ปราศจากการแต่งสีและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันด้วย (Non-comedogenic) ถ้าใครกำลังมองหากันแดดซักตัวANESSA Gold Milkก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเลยค่ะ




✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F89664%2Fee31c9e9-4a6e-4db6-be99-c4d1ce57896a.png?v=20240313173140&ratio=1.000

เป็นยังไงกันบ้างคะ เข้าใจเรื่องSPF กับ PA กันมากขึ้นหรือยัง ถ้ายังเราจะสรุปให้ตรงนี้ง่ายๆ ว่า SPF ป้องกันรังสี UVB ส่วน PA ป้องกันรังสี UVA ถ้าต้องเลือกซื้อกันแดดก็ให้เลือก Broad spectrum จะได้ครอบคลุมและปกป้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เน้นยำอีกทีหมั่นทากันแดดซ้ำทุก2ชั่วโมง ปริมาณ 2 ข้อนิ้วหรือ1/4 ช้อนชาน้าา



✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿

Designer :namoodongWriter :BabyPeachy

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้