1. SistaCafe
  2. Dead Inside ภาวะสิ้นยินดี อารมณ์ไม่อยากอะไรกับใคร ชินชากับทุกสิ่ง

สวัสดีค่าชาวซิสและนักอ่านทุกคน มีใครรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไม่ค่อยยินดียินร้าย เฉยชากับทุกสิ่งทุกอย่าง ความรู้สึกเหมือนจะด้านชาไปหมดบ้างไหมคะ มองเผิน ๆ มันอาจจะเหมือนเราแค่เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ เพราะทำอะไรเดิม ๆ บ่อย ๆ หรือเจอสภาพแวดล้อมเดิม ๆ บ่อย ๆ ก็เลยมีความรู้สึกแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วความรู้สึกแบบนี้อาจจะเป็นสัญญาเตือนว่าเราเข้าข่าย ภาวะสิ้นยินดี หรือ Dead Inside แล้วก็ได้นะคะ อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะยังรู้สึกงง ๆ ว่ามันคืออะไร งั้นมาทำความเข้าใจในบทความนี้ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ!


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

Dead Inside หรือภาวะสิ้นยินดี คืออะไร?

ภาวะสิ้นยินดีก็คือภาวะผิดปกติทางอารมณ์ ไม่รู้สึกรู้สากับความรู้สึกเชิงบวก (ดีใจ ยินดี มีความสุข สนุกสนาน ฯลฯ) แต่ยังคงรู้สึกรู้สากับความรู้สึกเชิงลบอยู่ (เสียใจ เครียด กังวล ฯลฯ) ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย

  • ทางกายภาพ : อาจเชื่อมโยงกับโรคภัยไข้เจ็บ หรือสารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง โรคพาร์กินสัน โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ เป็นต้น
  • ทางจิตใจ : อาจจะเกิดจากภาวะเครียดสะสมหรือเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจรุนแรง เช่น เสียคนสำคัญในชีวิตไป
  • สภาพแวดล้อม : การใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมหรือความกดดันเรื้อรัง เช่น การทำงาน การเรียน ไม่มีเพื่อนฝูงคอยให้กำลังใจ ไม่มีคนเข้าใจ
  • ผลข้างเคียงจากยา : ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ เช่น ยากล่อมประสาทหรือยาโรคซึมเศร้า

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

เช็กลิสต์! อาการแบบไหนเข้าข่ายภาวะสิ้นยินดี

เมื่อรู้จักภาวะนี้มากขึ้น หลาย ๆ คนก็คงอยากจะลองเช็กลิสต์คร่าว ๆ ว่าเราเข้าข่ายภาวะนี้ไหม มาลองเช็กกันตามนี้เลยค่ะ

  • ไม่รู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำ : แม้ว่าจะเป็นงานอดิเรกที่ชอบหรือความชอบอื่น ๆ เมื่อเห็นหรือทำแล้วก็ไม่ได้รู้สึกเพลิดเพลิน เอนจอยไปกับมัน
  • ไม่ตื่นเต้นในเรื่องสำคัญ : ไม่รู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้สึกสนุกสนาน ไม่รู้สึกยินดีหรืออยากจะเฉลิมฉลองในเหตุการณ์สำคัญหและงานเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันปีใหม่ก็ไม่เอนจอย รับปริญญาก็ไม่มีความสุข เป็นต้น
  • ไม่มีแรงจูงใจ : เพราะไม่รู้สึกสนุกสนานหรือไม่มีความรู้สึกในเชิงบวก เลยทำให้ขาดแรงจูงใจ ขาดเป้าหมายในการใช้ชีวิต
  • เริ่มแยกตัวออกจากสังคม : ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์กับใคร อยากอยู่คนเดียวมากกว่าเพราะรู้สึกว่าการเข้าสังคมมันน่าเบื่อ ไม่สนุก
  • ตั้งคำถามกับการมีชีวิต : บางคนอาจจะพยายามมองหาความหมายของชีวิต บางคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามว่าเราเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร ใช้ชีวิตทุกวันนี้ใช้ไปทำไม

♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

ภาวะสิ้นยินดี อันตรายมากไหม ?

ถ้าเกิดแค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่ได้กินเวลานาน หรือถ้ารู้สึกว่าอาการที่เป็นเข้าข่ายแล้วไปทำการรักษาอย่างถูกวิธีได้ทัน ก็ไม่เป็นอันตรายค่ะ แต่ถ้าหากภาวะสิ้นยินดีมันกินเวลานานเข้าเรื่อย ๆ มันก็คือการอยู่กับความรู้สึกแย่ ๆ ความรู้สึกลบ ๆ ตลอดเวลา สิ่งนี้ก็จะอันตรายค่ะ เพราะมันจะส่งผลทำให้อาการแย่จนเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ได้ในที่สุด ดังนั้นหมั่นคอยสังเกตความรู้สึกทั้งด้่านบวกและด้านลบ ความคิดและร่างกายของตัวเองอยู่เสมอนะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡

รับมือยังไงดี ถ้าเราเข้าข่ายภาวะDead Inside ?

ถ้ารู้สึกว่าเรามีภาวะนี้หรือความรู้สึกแบบนี้อยู่อาจจะลองแก้ไขหรือรับมือกับมันตามวิธีดังนี้ก่อนก็ได้นะคะ


1. เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

ล้มกระดานการใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิม ๆ ไปให้หมดเลยค่ะ ตารางอะไรที่ทำเดิม ๆ แก้ไขให้หมด แล้วให้เราเสริมพวกความบันเทิงและการพักผ่อนหย่อนใจเข้าไปในแต่ละวันบ้าง เช่น ปกติทำงานทั้งวัน กลับบ้านมาก็คิดเรื่องงานต่อแล้วก็นอน ให้เราปรับเปลี่ยนสิ่งนี้ด้วยการเลิกคิดเรื่องงานหลังเลิกงาน แล้วหาสิ่งที่ผ่อนคลายให้ชีวิต จะฟังเพลง ดูหนัง ร้องคาราโอเกะ อ่านการ์ตูน อะไรก็ได้ ขอแค่เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดบ้าง ก็จะช่วยทำให้เรามีความสุขในชีวิตได้ในแต่ละวันแล้วล่ะค่ะ


2. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารที่มีประโยชน์ งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มออกกำลังกายบ้างจะทำให้ร่างกายเริ่มปรับตัว พวกสารเคมีในสมองทั้งโดปามีนและเอนโดรฟีนก็จะเริ่มกลับมาหลั่งได้อย่างมีคุณภาพ ลดความเครียดลงบ้าง การนอนหลับก็จะมีคุณภาพขึ้นด้วยนะคะ


3. มองหาเป้าหมายในชีวิต

สิ่งนี้อาการคล้ายการรู้สึกหมดไฟหรือภาวะ Burnout Syndrome เลยนะคะ ดังนั้นเนี่ยเราจะต้องมองหาเป้าหมายในชีวิต ถ้ายังคิดไม่ออกก็ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ไปก่อนก็ได้ เช่น วันนี้จะดูหนังสักเรื่องให้จบ ก็ตั้งใจทำให้สำเร็จ เราก็จะเริ่มรู้สึกว่าเราได้พิชิตเป้าหมายที่ตั้งใจไปบ้างแล้ว มันก็จะส่งผลให้ความรู้สึกเชิงบวกค่อย ๆ ก่อตัว หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ มองหาเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นแทน อาจจะลองมองหาจากความสุขในอดีตที่เคยทำก็ได้นะคะ แล้วก็อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ไม่งั้นเครียดกว่าเดิมน้า


4. เติมพลังบวกและรักตัวเองให้มากขึ้น

เพราะเรามีแค่คนเดียวในโลก ถ้าเราไม่รักตัวเองก็ยากที่จะมีคนมารักเหมือนกันนะคะ ดังนั้นเนี่ยต้องส่งกำลังใจให้ตัวเองเยอะ ๆ เลย เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต เช่น วันนี้ฉันแต่งตัวน่ารักจัง วันนี้ฉันแต่งหน้าสวย วันนี้ฉันทำผมสวย เป็นต้น การให้กำลังใจตัวเยอะ ๆ จะส่งผลให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น เมื่อมั่นใจเวลาทำอะไรก็ราบรื่น มีสติ สามารถแก้ไขปัญหาที่เข้ามาได้แน่นอน


5. หมั่นสังเกตอารมณ์และความคิดของตัวเองอยู่เสมอ

อย่างที่บอกไปเลยค่ะว่าจะอารมณ์เชิงลบหรือเชิงบวกก็ตาม เราต้องสังเกตอยู่เสมอ จริง ๆ การมีความสุขมีเป็นเรื่องที่ดีนะคะ แต่ถ้าสุขจนเกินไปจนเวลารู้สึกเศร้าปุ๊บแล้วมันดิ่งสุด ๆ แบบนี้ก็อันตรายมาก ๆ ค่ะ อาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคไบโพลาร์ได้เลย ดังนั้นต้องหมั่นสังเกตตัวเองเรื่อย ๆ ว่ารู้สึกอะไร คิดอะไร เข้าข่ายอาการหรือภาวะนี้บ้างไหมจะได้รับมือได้ถูกต้องนะคะ


6. ปรึกษาจิตแพทย์

ถ้าแก้ไขเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้นหรือมั่นใจว่าเราเข้าข่ายภาวะนี้จริง ๆ ก็แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์เลยค่ะ เพื่อจะได้รักษาทัน เนื่องจากภาวะนี้ถ้าเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ก็จะไม่อันตราย แต่ถ้าอยู่กับมันนาน ๆ รักษาไม่ถูกวิธีก็เสี่ยงอันตราย เสี่ยงเป็นโรคทางจิตเวชได้นะคะ


♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡ ♡


ทำความเข้าใจภาวะสิ้นยินดีให้มากขึ้น !

สำหรับใครที่อยากจะดูคลิปต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจภาวะสิ้นยินดีหรือ Dead Inside ให้มากขึ้น ก็แนะนำรายการทอล์คและพอดแคสต์ฟังตามนี้เลยค่ะ ฟังได้เพลิน ๆ แถมยังเข้าใจง่ายด้วยนะคะ



♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥


เข้าใจ ภาวะสิ้นยินดี หรือ Dead Inside มากขึ้นแล้วใช่ไหมเอ่ย? ก็หวังว่าชาวซิสและนักอ่านทุกคนจะลองเช็กลิสต์สังเกตตัวเองกันให้บ่อยมากขึ้นว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง มีความยินดียินร้ายบ้างไหม หรือไม่ยินดีเลย เพื่อจะได้รู้เท่าทันว่าเราเสี่ยงภาวะนี้ไหมนะคะ แล้วก็ไม่ต้องกังวลกับมันเกินไป เพราะมันสามารถที่จะปรับเปลี่ยนและรักษาให้อาการดีขึ้นได้หากเรารู้ตัวทัน ยังไงถ้าสังเกตตัวเองแล้วลองสังเกตคนรอบข้างด้วยก็จะได้เป็นหูเป็นตาให้กันและกันนะคะ เอาล่ะ! ว่าแล้วเราก็ขอไปเติมกำลังใจให้ตัวเองบ้างดีกว่า ชาวซิสและนักอ่านทุกคนก็อย่าลืมเติมกำลังใจให้ตัวเองด้วยน้า ตอนนี้ลาไปก่อนแล้วค่า บ๊ายบาย


ขอบคุณรูปภาพหน้าปกและภาพประกอบบทความจากเว็บไซต์ soompi.com รวมทั้งข้อมูลจากเว็บไซต์ manarom.com, bedee.com, chula.ac.th


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แนะนำบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ!

เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้

🔮 ดูดวงกับ SistaCafe ผ่าน Line Official !
รูปภาพสำหรับป๊อปอัพลอย:1