ใครเป็นสาวกสกินแคร์จะรู้เลยว่าในช่วงที่ผ่านมามีเทรนด์ดูแลผิวใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาเยอะมากกก ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์มาสก์หน้าทุกวัน เทรนด์ใช้เรตินอล ไปจนถึง Skin Cycling ซึ่งก็เป็นอะไรใหม่ ๆ ที่เค้าว่ากันว่าทำแล้วเวิร์ก ผิวดี ผิวดุ้ง! และหลายๆ คนก็เริ่มได้ลองทำตามเทรนด์นี้กันไปบ้างแล้วใช่มั้ยล่าา แต่จะบอกว่าล่าสุดมีเทรนด์ใหม่พร้อมเสิร์ฟมาแล้วจ้าาา กับเทรนด์ที่กำลังมาแรงอย่างการทำ "Skin Streaming" ซึ่งจะไปเปลี่ยนให้การใช้ชีวิตเราง่ายขึ้นสิบเท่า วิธีทำไม่ซับซ้อน คนขี้เกียจก็ยังทำตามได้ เพราะการทำ " Skin Streaming " เค้าถือคติว่า น้อยแต่มาก!
Skin Streamingหมายถึงอะไร?
Skin Streaming มาจากคำว่า Streamlining/Streamline (Verb) : to change something so that it works better, esp. by making it simpler: (Definition of streamline from the Cambridge Academic Content Dictionary © Cambridge University Press) แปลว่า การปรับปรุงให้ดีขึ้น ง่ายขึ้น หรือให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิง
ซึ่งพอเอามารวมกับคำว่า Skin ให้เป็น Skin Streaming แล้วนั้นจะหมายถึง การลดขั้นตอนสกินแคร์รูทีนให้เหลือเฉพาะที่สำคัญจริงๆ แต่ยังได้ประสิทธิภาพสูงสุดอยู่นั่นเอง
ที่มาของ Skin Streaming
เทรนด์การทำ Skin Streaming ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนว่าเริ่มมาจากที่ไหน หรือใครเป็นคนริเริ่มเทรนด์นี้ แต่จากคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่ออกมาแนะนำให้ใช้สกินแคร์ที่มีคุณภาพแทนการใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิด ทั้งอิทธิพลจากสื่อและสังคม รวมไปถึงการบูมของโซเชียลแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Tiktok, Instagram, Youtube เลยดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดเป็นเทรนด์นี้ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในวงการสกินแคร์ ซึ่งเกิดจากความต้องการในการทำให้รูทีนการดูแลผิวเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Skin Streamingคืออะไร?
อธิบายง่าย ๆ คือ "Skin Streaming เป็นการลดขั้นตอนจัดสกินแคร์รูทีนให้ง่ายขึ้น กระชับขึ้น ไม่ต้องใช้เวลาค่อนคืนไปกับการลงครีมบนผิว โดยจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่น้อยลงแต่ยังให้ประสิทธิภาพครอบคลุมความต้องการของผิวเรา ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวด้วยกัน ซึ่งจริงๆ เค้าอาจจะมีคุณสมบัติทับซ้อนกันอยู่ ก็เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งตัวแต่มีคุณสมบัติควบสองไปเลยในตัวเดียวกัน หรือจะเป็นการลดผลิตภัณฑ์ที่เคยมีหลายสิบตัวให้ลดลงเหลือเพียงตัวที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว รูทีน Skin Streaming จะประกอบด้วยสกินแคร์เพียง 4 ตัวที่จำเป็น โดยจะประกอบไปด้วย
- คลีนเซอร์ สำหรับทำความสะอาดผิว โดยให้เลือกตัวที่เหมาะกับประเภทผิวและความต้องการของเรา
- เซรั่ม ที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละคน
- มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิว
- ครีมกันแดด เพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV
ข้อดีของSkin Streaming
- ลดการระคายเคืองผิว เมื่อจำนวนสกินแคร์ที่ใช้น้อยลง ความเสี่ยงในการระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็จะน้อยตามลงไปด้วย
คุณ Rikki Korkowicz ผู้ช่วยแพทย์ที่ Schweiger Dermatology ในบรูคลินกล่าว "การลดจำนวนผลิตภัณฑ์ ช่วยลดโอกาสในการระคายเคืองหรือการตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์ จากการผสมผสานของส่วนผสมหลายตัวเข้าด้วยกัน"
อ้างอิง
- ผิวสุขภาพดีขึ้น ผิวสามารถดูดซึมสารแต่ละตัวและได้รับประโยชน์จากสกินแคร์ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
- ประหยัดเวลา เมื่อขั้นตอนสกินแคร์น้อยลง เราก็จะใช้เวลาในการทาครีมน้อยลง ทำให้มีเวลาใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะสกินแคร์ 1 ตัว สามารถใช้ได้ครอบคลุมหลายคุณสมบัติ จึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสกินแคร์ตัวอื่นเพิ่ม
- ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนสกินแคร์ที่ใช้น้อยลงก็แปลว่าเราสามารถลดขยะบรรจุภัณฑ์และคาร์บอนฟรุตปรินท์ได้ด้วย
- บ้านไม่รก มีพื้นที่ในกระเป๋าเพิ่ม แน่นอนว่าเมื่อสกินแคร์จำนวนน้อยลง เราก็จะพื้นที่ในกระเป๋าเิดินทางเหลือมากพอที่จะใส่สิ่งของอย่างอื่นมากขึ้น รวมถึงยังทำให้บ้านดูเป็นระบบระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณกระจกในห้องห้องน้ำ หรือแม้แต่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน
ใครเหมาะกับการทำSkin Streaming บ้าง?
ทุกคนสามารถทำ Skin Streaming ได้ และยิ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ดีโดยเฉพาะกับคนที่มีปัญหาเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ หรือคนที่ระคายเคืองง่าย
Skin Streaming ต่างจาก Skin Cycling ยังไง?
Skin Cycling เป็นวิธีการที่เราจะหมุนเวียนการใช้ผลิตภัณฑ์หรือส่วนผสมที่อาจจะมีความเสี่ยงในการระคายเคืองสูงโดยจะใช้เป็นรูทีนตามตาราง เพื่อให้ผิวของเรามีเวลาพักฟื้นจากการใช้สาร ตัวอย่างเช่น การใช้สารเรตินอล ซึ่งเค้าเป็นสารที่หากขาดความรู้ในการใช้ก็อาจทำให้ผิวเราพังได้ การทำ Skin Cycling ก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ โดยเราก็จะมีตารางรูทีนเอาไว้ดูว่าวันไหนควรใช้วันไหนควรพักหน้าเพื่อปล่อยให้ผิวฟื้นฟูในคืนอื่นๆ ส่วน คอนเสปท์ของ Skin Streaming นั้นก็จะต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง เพราะเค้าจะเป็นการลดขั้นตอนสกินแคร์ให้น้อยลง จากที่เราอาจจะเคยใช้ซักสิบตัวต่อคืน ก็ลดมาเหลือไว้แค่สี่ตัว ที่ยังครอบคลุมปัญหาผิวเราอยู่ เป็นสกินแคร์รูทีนที่เรียกได้ว่าน้อยแต่มากนั่นเอง
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำSkin Streaming
1. ต้องปรับสกินแคร์รูทีนให้เข้ากับสภาพผิวเรา
การทำ Skin Streaming ไม่ใช่ว่าอยากทำก็ทำ หรืออยากตัดอะไรก็ตัด เพราะเราต้องคำนึงถึงก่อนว่าสภาพผิวเราเป็นยังไง ขาดเหลืออะไรที่จะช่วยเสริมให้ผิวดีขึ้นได้ โดยเราสามารถปรับสกินแคร์ให้เหมาะกับเราได้ ลองเช็กดูว่าผิวของเราเป็นผิวแบบไหน เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย หรือผิวที่เป็นสิว แล้วก็ค่อยมาเลือกเอาว่า สกินแคร์ที่ผิวแบบเราควรใช้เป็นแบบไหน เช่นคนผิวมัน คลีนเซอร์ก็ควรจะช่วยลดความมัน มอยส์เจอไรเซอร์ควรเนื้อบางเบาจะได้ไม่หนักหน้าเกินไป เป็นต้น
2. เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ให้เราเน้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและครอบคลุมได้หลายคุณสมบัติ เช่น เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ตัวที่ใส่สารกันแดดเพิ่มไปด้วยเลย ก็จะยิ่งช่วยให้สกินแคร์รูทีนเรากระชับขั้นตอนลงได้อีก หรือใช้เซรั่มที่ทั้งให้ความชุ่มชื้นและช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ในตัวเดียวกัน จากที่เราเคยต้องพกสองขวดก็เหลือเพียงแค่ขวดเดียว ทีนี้จะพกพาไปไหนก็ง่ายขึ้น สะดวกขึ้นแล้ว
อย่าลืมให้ความสำคัญกับส่วนผสมในแต่ละผลิตภัณฑ์ ถึงเราจะลดจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ลงไป แต่ส่วนผสมก็ยังคงต้องมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับประเภทผิวของเราอยู่ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิว ผิวอ่อนแอ หรือโรคทางผิวหนังอื่นๆ การหักสกินแคร์ตัวใดตัวหนึ่งแล้วลดให้เหลือแค่ 4 ตัว อาจจะยังไม่ครอบคลุมปัญหาผิวทั้งหมด เพราะคนผิวประเภทนี้อาจจะต้องใช้สารอื่นๆ เพิ่มเติมในการรักษา ถ้าไม่แน่ใจ การสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วมในการตัดสินใจอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
3. ความยืดหยุ่นของสกินแคร์รูทีน
เราสามารถปรับเปลี่ยนสกินแคร์ตามความต้องการของผิวได้ ไม่ใช่ว่าพอทำ Skin Streaming แล้วจะจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกันตลอดไป ถ้าผิวเราเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหาผิวหรือแม้แต่เป็นเพราะอากาศที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น อยู่ๆ ก็เกิดผิวแห้งขึ้นมา ก็ให้เราประเมินผิวและปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับสภาพผิวที่เปลี่ยนไป โดยเราอาจจะเปลี่ยนไปใช้มอยส์เจอไรเซอร์ตัวที่เนื้อหนักขึ้น เข้มข้นขึ้นแทนเป็นต้น
4. ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น
หากเราปรับมาทำ Skin Streaming โดยทันที อาจมีช่วงเวลาที่ผิวเค้ายังต้องปรับตัวให้เข้ากับรูทีนใหม่ ในช่วงนี้เราอาจจะพบการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในผิวได้เช่นกัน
สกินแคร์รูทีน ฉบับ Skin Streaming
ซิสลองไปสรุปสกินแคร์ตัวที่น่าสนใจจากใน 4 ขั้นตอนสกินแคร์ ตามการทำ Skin Streaming มาให้ แบ่งแยกประเภทออกไปทั้ง คลีนเซอร์ เซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ รวมถึงกันแดดแบบคร่าวๆ มาให้ ใครเป็นผิวแบบไหนก็สามารถดูผลิตภัณฑ์ในลิสท์นี้ไว้เป็นไอเดียได้เลย หรือจะเลือกผลิตภัณฑ์ตัวอื่นนอกเหนือจากในลิสท์นี้ที่เหมาะกับปัญหาผิวเรา หรือเป็นเนื้อสกินแคร์เป็นแบบที่เราชอบมากกว่าก็ได้เช่นกันจ้าา
1. คลีนเซอร์
- Cetaphil daily facial cleanser อ่อนโยน เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
- Cerave hydrating facial cleanser ไม่มีโฟม อ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้น
- Eucerin Gel to Foam Cleanser เหมาะกับคนผิวมัน ช่วยลดการอุดตัน
- HER HYNESS Prebio Complete Anti-Acne Foam สำหรับคนชอบเนื้อฟองโฟม ควบคุมความมันได้
2. เซรั่ม *เลือก 1 ตัว ตามปัญหาผิว
- Dr.Pong-28D Whitening Drone Acne Serum ช่วยลดสิว
- Eucerin Spotless Brightening Booster Serum ช่วยลดเม็ดสี ลดจุดด่างดำ
- L'Oréal Paris Revitalift Hyaluronic Acid Replumping Serum ช่วยเติมน้ำให้ผิวอิ่มฟู
- Vichy Liftactiv Vitamin C Brightening Skin Corrector ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ
3. มอยส์เจอไรเซอร์
- Clear Nose Moist Skin Barrier Moisturizing Gel เนื้อเบาสบาย
- Dr.G R.E.D Blemish Clear Soothing Cream ปลอบประโลมผิว เนื้อเบาสบาย คนผิวมัน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
- INGU Skin Green Tea Deep Repair Cream เนื้อเข้มข้น เหมาะกับคนผิวแห้ง-แห้งมาก
- Cetaphil, Moisturizing Cream เนื้อเข้มข้น เหมาะกับคนผิวแห้ง-แห้งมาก
4. ครีมกันแดด
- KA UV Whitening Soft Cream SPF50+/PA++++เนื้อบางเบา สามารถใช้เป็น Everyday use ได้
- Mizumi UV Water Serum SPF50+/PA++++ เนื้อบางเบา คนเป็นสิวสามารถใช้ได้
- La Roche-Posay Anthelios Uvmune 400 Invisible Fluid Spf50+ เหมาะกับการออกแดดจัด
- Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF50+ PA++++ เหมาะกับการออกแดดจัด หรือคนชอบเล่นกีฬา
🩷🤍🩷🤍🩷🤍🩷
Skin Streaming ทำให้เราเห็นว่าการลดจำนวนผลิตภัณฑ์จริงๆ แล้วทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีได้ เรียกว่าน้อยแต่มากจริงๆ ซึ่งวิธีการดูแลผิวที่แสนจะเรียบง่ายแบบนี้ก็ช่วยให้แต่ละผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่เสี่ยงต่อการระคายเคืองเพิ่มเติม ใครที่กำลังเหน็ดเหนื่อยกับการทาครีมสิบชั้นถึงจะได้นอน หรือใครที่กำลังอยากเริ่มดูแลผิวแบบง่ายๆ ก็สามารถเอาหลักการดูแลผิวแบบ Skin Streaming ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณที่ใช้ไปลองทำตามกันได้ ยิ่งถ้าทำแล้วดี ทำแล้วผิวปั๊วะขึ้นจริง ก็อย่าลืมกลับมาบอกกันด้วยนะคะซิส!
🩷🤍🩷🤍🩷🤍🩷
Writer : Babypeachy
Designer : tt.
อ้างอิง
https://coveteur.com/skin-streaming-trend
https://www.popsugar.com/beauty/skin-streaming-49108016
https://avaribeauty.com/blogs/blog/skin-streaming-everything-you-need-to-know-about-this-2024-skincare-trend?srsltid=AfmBOoq5BQS2rR0wDeXMTsPjGH5tm6dnVXYmT2UqmM0GvPBd-3Y-Y0ZV
https://luxurylondon.co.uk/wellbeing/beauty/skin-streaming-skincare-beauty-trend/
บทความแนะนำเพิ่มเติม
รู้หรือไม่ ! ทำไมทา Moisturizer แล้วหน้ายังแตก ? 🤔 | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/90968
สิวผดใช้อะไรดี รักษาผื่นจิ๋วกวนใจที่แก้มและหน้าผากให้หาย ไม่กลับมา | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/what-is-best-for-healing-acne-aestivalis-90784
บอกต่อ 10 ครีมเรตินอลเกาหลี บอกลาสิวริ้วรอยได้ ถ้าใช้พอเหมาะ! | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/Best-Korean-Retinol-Skincare-94864
วิธีเลือกกันแดดตามประเภท Physical กับ Chemical แบบใดเหมาะกับผิว | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/physical-vs-chemical-sunscreen-94190