ยิ่งโลกหมุนเร็วเท่าไหร่ ความเจริญก็ยิ่งเพิ่มขึ้นจนอาจส่งผลกระทบทั้งในแง่ดีและแง่ลบแก่มนุษย์ได้ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ช่วงหลังเราจึงได้เห็นเทรนด์การบำบัดใจและกายที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเปลี่ยนแปลงและความเจริญของเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นหนึ่งในเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรงช่วงนี้ก็คือ การปล่อยให้ร่างกายและจิตใจได้รายล้อมด้วยธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นคือกลับไปสัมผัสธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยฮีลใจได้มากกว่าที่คิด วิธีนี้เรียกว่า Grounding Therapy หรือ Earthing Therapy หลายคนอาจจะมองว่าไม่ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายนะคะซิส เพราะแค่ลองปรับจากจับสมาร์ทโฟนมาเป็นจับหญ้าและดินแทน จะมีสักกี่คนที่ทำได้ในทันทีกันเชียวล่ะ แต่เอาล่ะใครที่กำลังหาวิธีผ่อนคลายตัวเองกันอยู่ เราว่าถ้าตั้งใจทำจริงๆ ก็ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในโลกเลยล่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ

parae
Content Manager
นักคิดนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านเนื้อหาบิวตี้ ไลฟ์สไตล์ และสุขภาพในออนไลน์กว่า 10 ปี
Grounding Therapy คืออะไร

Grounding / Earthing Therapy คนส่วนใหญ่จะเรียกว่า Grounding Therapy คือ การนำร่างกายไปสัมผัสกับพื้นโลก ธรรมชาติ ดิน หญ้า ทราย น้ำทะเล เพื่อให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟู จากแนวคิดของ Clinton Ober คือเขามองร่างกายเป็นระบบไฟฟ้า และเมื่อระบบไฟฟ้าอย่างร้่างกายขาดการต่อสายดิน ก็จะไม่สมดุล จึงต้องใช้ Grounding Therapy ด้วยการสัมผัสโลกเพื่อให้ร่างกายได้รับประจุไฟฟ้าลบจากพื้นโลกที่ช่วย รีเซ็ตสมดุลให้ร่างกาย

วิธีฝึก Grounding Therapy ทำง่าย ทำได้ทุกที่บนโลก
วิธีแบบดั้งเดิม (Traditional Methods) คือ การให้ร่างกายสัมผัสพื้นโลกโดยตรงแบบไม่มีอุปกรณ์ช่วย
- เดินเท้าเปล่าบนหญ้า ดิน หรือทราย ประมาณ 10-15 นาที
- จัดสวนในบ้านง่าย ๆ ใช้มือสัมผัสดินโดยตรง ไม่ต้องใส่ถุงมือ
- นั่งหรือนอนให้ผิวหนังของคุณสัมผัสบนหญ้า ดิน หรือทราย
- แช่ตัวในแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น บ่อน้ำ แม่น้ำ ทะเล

วิธีแบบอุปกรณ์ (Modern Products) มีอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่ Grounding Therapy และอุปกรณ์เพื่อสุขภาพอื่น ๆ ที่สามารถใช้ร่วมกันได้
- ชุดเครื่องนอน เช่น ผ้าปูที่นอน หมอน แผ่นรองนอนที่ฝังวัสดุนำไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นไฟฟ้าประจุลบแบบเบา ๆ
- ถุงเท้า รองเท้าที่ไม่หนามาก ทำให้สามารถสัมพันธ์พื้นธรรมชาติได้
- สายรัดข้อมือ ข้อเท้า โดยเฉพาะรูปแบบหิน หรือกำไลหยก
- แผ่นแปะ (adhesive patches) ที่ติดกับผิวหนัง
- อุปกรณ์ที่เสียบลงดิน หรือเชื่อมกับปลั๊กไฟบ้าน (ในบางกรณี)
- พรม Grounding เสื่อโยคะ เสื่อสำหรับนั่งสมาธิ ในการปูนั่ง หรือนอนกับพื้นธรรมชาติ
ประโยชน์ของ Grounding Therapy ฟื้นฟูทั้งกายและใจ
- การนอนหลับดีขึ้น จากการช่วยให้ผ่อนคลาย เพิ่มคุณภาพของการนอนได้
- ลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย หากเพิ่ม Grounding Therapy ในการยืดเหยียดหลังออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมที่โดนพื้นธรรมชาติโดยตรง หรือแบบอุปกรณ์ที่ใช้เสื้อโยคะปูเพื่อนอนยืดเหยียดก็ได้เหมือนกัน
- อารมณ์ดีขึ้น มีผู้ทดลองทำ Grounding Therapy ขณะพักในช่วงเรียนหรือทำงาน ปรากฏว่าอารมณ์โดยรวมดีขึ้น เครียดระหว่างวันน้อยลง
- ลดความเหนื่อยล้า เป็นการช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ง่าย ๆ หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นหลังตื่นนอน ระหว่างพักกลางวัน ก่อนนอน หรือทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวัน
- Grounding Therapy ช่วยคลายเครียดได้ในทันที ลดความเครียด หรือความวิตกกังวล โดยเป็นวิธีที่สามารถทำได้ทันทีที่เกิดความเครียด หรือต้องการ Emotioทal Support สำหรับใครที่มีความเครียดบ่อย ๆ ระหว่างเรียนหรือทำงานก็สามารถจดวิธี 5-4-3-2-1 นี้ไปใช้ได้เลย

หลักการ 5‑4‑3‑2‑1
เป็นการใช้ Grounding Therapy เพื่อฟื้นฟูด้านจิตใจ (Mental Grounding) วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มือหรือเท้่าในการสัมผัสกับธรรมชาติ แต่เป็นการนึกถึงธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา ณ ตอนนั้น เพื่อช่วยลดความเครียดได้
- ระบุ 5 สิ่งที่คุณมองเห็นในตอนนั้น เช่น หน้าจอคอม ปากกา แจกัน ประตู โต๊ะ
- ระบุ 4 สิ่งที่สัมผัสได้ในตอนนั้น เช่น เม้าส์ หวี กระเป๋า มือถือ
- ระบุ 3 สิ่งที่ได้ยินในตอนนั้น เช่น เสียงลมหายใจ เสียงกดคีย์บอร์ด เสียงแอร์
- ระบุ 2 สิ่งที่ได้กลิ่นในตอนนั้น เช่น น้ำหอม ยาดม
- ระบุ 1 สิ่งที่ได้ลิ้มรสในตอนนั้น เช่น กาแฟ
วิธีแบบนี้นี่เองที่จะมาช่วยดึงเรากลับสู่ความสนใจไปสู่สิ่งที่อยู่รอบตัว ช่วยลดความตึงเครียด และให้จิตใจอยู่กับปัจจุบันมากที่สุด
ข้อควรระวังเมื่อทำ Grounding Therapy
- เดินบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ อาจหกล้ม สะดุด โดยเฉพาะการเดินเท้าเปล่าที่อาจเหยียบสิ่งแหลมคมได้
- เดินเปล่าในน้ำธรรมชาติท อาจเจอพื้นลื่นหรือมีหินคม
- แหล่งน้ำธรรมชาติอาจมีเชื้อโรค หรือสิ่งสกปรกได้ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามใช้ Grounding Therapy แทนการรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น หากต้องการรักษาอาการบาดเจ็บหนักไม่ว่าจะร่างกายหรือจิต ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อย
ทำได้แน่นอน อุปกรณ์ไม่จำเป็นเลย ขอแค่มั่นใจในความปลอดภัย จะไปนอนแช่น้ำ หรือนั่งอาบแดดบนพื้นทรายก็นับเป็น Grounding Therapy เหมือนกัน
ใช้เวลา 10-15 นาทีต่อกิจกรรม ระหว่างนั้นให้ทำหัวให้โล่ง หยุดคิด หยุดนึกถึงเรื่องเครียด เพื่อรีเซตและปรับสมดุลให้ร่างกายและจิตใจ
สามารถทำได้ทุกวัน หรือทุกครั้งที่เกิดอาการเครียด วิตกกังวล ได้เลย
สรุป Grounding Therapy ช่วยฮีลสุขภาพได้เพียงใช้ร่างกายและจิตใจสัมผัสธรรมชาติ
เทรนด์สุขภาพที่ไม่ได้เป็นแค่กระแส แต่เป็นอีกแนวทางที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ได้รักษากายและใจผ่านวิธีธรรมชาติได้ง่าย ๆ จากการ Grounding Therapy ใครที่ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ใช้แค่มือเปล่า เท้าเปล่า ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ แต่อย่าลืมว่า หากมีอาการที่กังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงไปด้วยกันค่า

ข้อมูลจาก verywellheath รูปภาพจาก freepik
✹✹✹✹✹✹✹✹✹
บทความแนะนำที่คล้ายกัน

Ice Bath เทรนด์แช่น้ำแข็งใหม่ พร้อมแจกพิกัดในกรุงเทพไปรีแล็กซ์ร่างกาย | บทความของ CutenessCorner | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/202523

Brain fog ภาวะสมองล้า สัญญาณเตือนสุขภาพ ที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด | บทความของ belfry | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/brain-fog-syndrome-79330

5 ปัญหาสุขภาพจิตของคนวัย 20 - 30 | บทความของ Ammy | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/mental-health-problems-in-women-219289

Ginger Shots ทริคดูแลสุขภาพสไตล์เซเลน่า ดื่มน้ำขิงแล้วหุ่นดีจริงเหรอ ? | บทความของ ManooFK | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/ginger-shots-96661

10 สิ่งต้องทำหลังออกกำลังกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ! | บทความของ Mollacake | SistaCafe ครบเครื่องเรื่องบิวตี้
https://sistacafe.com/summaries/things-to-do-after-a-workout-1738