1. SistaCafe
  2. ริมฝีปากย่น ไขข้อข้องใจ เหตุเกิดเพราะดื่มน้ำผิดท่าทำปากย่นจริงไหม?

เรื่องเล็กๆ ที่เราทำเป็นประจำอาจสร้างริ้วรอยให้กับริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว! เชื่อเลยว่ามีใครหลายคนที่ประสบปัญหารอยย่นบนปากโดยไม่ทราบสาเหตุและเป็นปัญหาของใครหลายคน เพราะ ริมฝีปากรอยย่น ทำให้หน้าดูเหมือนคนมีอายุ จึงทำให้บางคนแก้ปัญหาหรือตัดปัญหาด้วยการเติมฟิลเลอร์ที่กำลังเป็นกระแสหรือเทรนด์ในตอนนี้ เพราะประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ที่ปากนั้นนอกจากจะช่วยให้ปากดูเป็นทรงตามที่เราต้องการแล้วนั้น ยังเสริมให้ปากดูฟู ดูเต็ม ลดรอยย่นที่ปากได้ดีทีเดียว เพราะเมื่อปากดูฟูดูฉ่ำนั้นจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้นได้ แต่ต้นตอของปัญหารอยย่นจริงๆ นั้นหากยังคงทำพฤติกรรมซ้ำๆ ก็สามารถสร้างรอยขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน อีกทั้งอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมที่ทุกคนไม่อาจนึกถึงนั่นคือการดื่มน้ำ บอกเลยว่าการดื่มน้ำเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่สำคัญที่ทำให้ริมฝีปากย่นโดยไม่รู้ตัว แต่นอกจากดื่มน้ำก็ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ร่วมด้วย แต่จะสร้างรอยย่นอย่างไร เราไปไขข้อข้องใจเรื่อง ริมฝีปากย่นเพราะการดื่มน้ำจริงหรือไม่ แล้วจะมีวิธีแก้อย่างไรเพราะเราจำเป็นต้องดื่มน้ำทุกวันกัน!


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สาเหตุของการเกิดริมฝีปากย่น

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F202031%2Fce73cb20-a332-49eb-a565-12794ca77113?v=20240724232011

การดื่มน้ำ

การดื่มน้ำจากปากขวดโดยตรง การใช้หลอด หรือการดื่มผ่านแก้ว สามารถเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากย่นได้ เนื่องจากการทำองศาและลักษณะการดื่มแบบเดิมเป็นประจำ นั่นคือการทำปากจู๋ เพราะการทำปากจู๋แน่นอนว่าช่วยให้น้ำไม่เลอะหรือหกออกจากปาก แต่การทำแบบนี้นั้นทำให้กล้ามเนื้อปากหดตัว เมื่อเป็นแบบนี้นานๆ เข้า จึงทำให้ปากเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย และร่องลึกอย่างถาวร


ผลจากแสงแดด

แม้ว่าเราจะมีการทาครีมกันแดดเป็นประจำไม่ว่าจะผิวหน้าหรือผิวกาย แต่ผิวหนังบริเวณหนึ่งที่เรามักจะลืมทาหรือปกป้องจากแสงแดดเลยก็คือผิวหนังบริเวณริมฝีปากนั่นเอง เพราะผิวบริเวณริมฝีปากนั้นมีความบอบบางยิ่งถูกแสงยูวีในแสงแดดทำลายเป็นประจำโดยเฉพาะรังสียูวีเอ (UVA) คอลลาเจน อีลาสติน และกรดไฮยาลูรอนิกในผิวหนังก็จะเริ่มสลาย อีกทั้งอนุมูลอิสระยังทำให้เซลล์ผิวหนังอ่อนแอลงอีกด้วย จนทำให้ริมฝีปากย่นและไม่เต่งตึงได้


อายุที่มากขึ้น

เมื่ออายุเกิน 20 ปี ร่างกายก็จะลดการผลิตคอลลาเจนน้อยลงประมาณ 1% ทุกๆ ปี เมื่อปริมาณคอลลาเจนในผิวลดลง ผิวหนังก็จะเริ่มบางและสูญเสียความยืดหยุ่นทำให้ผิวหนังทั่วร่างกายรวมไปถึงบริเวณริมฝีปากที่เคยเต่งตึง เรียบเนียนในช่วงวัยรุ่น เริ่มมีรอยเหี่ยวย่น นอกจากคอลลาเจนในผิวจะลดลงแล้ว ผิวหนังก็แก่ไปตามวัยทั้งยังผลิตน้ำมันได้น้อยลง จนส่งผลให้ปากแห้งแตก และดูไม่เรียบเนียน


การสูบบุหรี่

เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ริมฝีปากย่นไม่เต่งตึง เพราะนอกจากท่าทางในการสูบบุหรี่จะส่งผลกระทบกับกล้ามเนื้อปากแล้ว การรับเอาควันบุหรี่เข้าไปมากๆ ทุกวัน ยังทำให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน หรือภาวะความไม่สมดุลกันของการเกิดอนุมูลอิสระ (Oxidative Stress) ที่ส่งผลให้ผิวแก่เร็ว ริมฝีปากมีร่องลึก เหี่ยวย่น ดูไม่เต่งตึงได้


วิธีการป้องกันและลดปัญหาริมฝีปากย่น

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F202031%2F29828333-951b-4353-ac30-12a507b56f4e?v=20240724232022
  • ผลัดเซลล์ผิวบริเวณริมฝีปาก

หากปากแห้งแตกหรือลอกเป็นขลุ่ย อาจทำให้ริมฝีปากย่น มีริ้วรอยชัดเจน การผลัดเซลล์ผิวด้วยการสครับริมฝีปากเป็นประจำทุกวันเช่น สครับด้วยน้ำตาลทรายแดงผสมน้ำผึ้ง ใช้แปรงสีฟันขัดริมฝีปากเบาๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์สครับเฉพาะปากโดยตรง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวริมฝีปากที่เสื่อมสภาพและแห้งลอกออกไป ทำให้ปากดูกลับมานุ่มนวลและสุขภาพดีขึ้นได้


  • ทาลิปบาล์มเป็นประจำ

การทาลิปบาล์มหรือลิปบำรุงริบฝีปากเป็นประจำ เพื่อให้ปากชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก หรือเหี่ยวย่น แต่สำหรับตอนกลางวันควรเลือกใช้ลิปบาล์มหรือลิปมันกันแดดจะช่วยปกป้องผิวบริเวณริมฝีปากไม่ให้รังสียูวีทำร้ายจนริมฝีปากย่น ส่วนกลางคืนก็อาจจะทาลิปมันที่เนื้อเข้มข้นขึ้นมา หรือน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื่นตลอดทั้งคืน ผลลัพธ์ที่ได้ปากจะดูเรียบเนียน อวบอิ่ม เมื่อทาลิปสติกก็ออกมาดูฟู ดูฉ่ำเต็มอิ่ม น่าจุ๊บ!


  • ทาครีมกันแดดทุกวัน

แม้จะไม่ควรทาครีมกันแดดที่บริเวณริมฝีปากโดยตรง แต่ก็ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้า ใบหู และลำคอ รวมถึงผิวบริเวณริมฝีปากเป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากรังสียูวี โดยผู้เชี่ยวชาญเผยว่าควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป โดยทาก่อนออกแดด 15 นาที และทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง และทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดในช่วงแดดจัดหรือประมาณ 10.00-14.00 น.


✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


วิธีแก้ริมฝีปากย่น โดยเปลี่ยนท่าทางการดื่มน้ำ

สำหรับคนที่ดื่มน้ำจากขวดโดยตรง

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F202031%2F2b51610e-6836-442a-9f82-809ddf3cec32?v=20240724232952

วิธีแก้คือ การดื่มไม่ให้โดนปาก หรือเทน้ำเข้าปาก และการอมปากขวดแล้วกระดกดื่มแทน วิธีนี้จะช่วยลดการสร้างรอยย่นบนริมฝีปากได้ประมาณหนึ่ง เพราะเราไม่จำเป็นต้องทำปากจู๋อยู่ตลอด แต่ใครที่ดื่มโดยการไม่ให้โดนปากระวังน้ำหกให้ดีด้วย


สำหรับคนที่ดื่มน้ำจากหลอด

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F201996%2F06b2b571-14ad-40ee-9ea7-ea48360ab9e6?v=20240815072809

วิธีแก้คือ เปลี่ยนจากดื่มหลอดกลางปาก มาดื่มหลอดข้างมุมปากแทน วิธีเหล่านี้จะช่วยไม่ให้เราปากจู๋แล้วยังเหมาะสำหรับสายทาลิปสีๆ อีกด้วย เพราะจะช่วยลดการเกิดลิปติดหลอดนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้เหล่าดาา ไอดอล ใช้กันเป็นประจำ นอกจากช่วยลดริมฝีปากย่นยังได้ท่าดื่มน้ำน่ารักไปด้วย


สำหรับใครอยากเห็นวิธีการดื่มแบบเห็นภาพ สามารถดูเพิ่มเติมได้จากวิดิโอนี้



✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


ปากอิ่มฟูแบบรวดเร็ว

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F202031%2F9c7594d2-7bc4-419a-82ec-0b5a53819cfc?v=20240724232041

ใครที่ประสบปัญหาริมฝีปากย่นแล้วรู้สึกไม่มั่นใจสามารถใช้หัตถการในการแก้ปัญหานี้ได้ทั้งเร็วและผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะ การฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ และการเลเซอร์ผิว

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการใช้สารเติมประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ฉีดบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปากให้ปากอวบอิ่มขึ้น แก้ปัญหาปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นรูปไม่สมดุล หรือร่องปาก ให้สวยมากขึ้น
  • การฉีดโบท็อกซ์ปาก หรือสารโบลินั่ม (Botulinum) เป็นนวัตกรรมที่ใช้ในการลดเลือนริ้วรอยบนริมฝีปาก ช่วยยกกระชับผิว และทำให้หรือผิวแลดูเรียบเนียนขึ้น เมื่อฉีดเข้าแล้วโบบ็อกซ์จะสร้างกล้ามเนื้อรอบริมฝีปากให้เคลื่อนไหวได้น้อยลง เมื่อเคลื่อนไหวน้อยริ้วรอยก็ลดลง อีกทั้งเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 3-5 วัน เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความรวดเร็วและอยากให้ริมฝีปากเรียบเนียนขึ้นแบบทันใจ
  • การเลเซอร์ เป็นการรักษาริ้วรอยบริเวณริมฝีปากสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ การเลเซอร์ที่ทำให้เกิดแผล หรือเกิดอาการลอก เหมาะสำหรับปากที่เหี่ยวย่นมากๆ ซึ่งข้อเสียนั้นหลังทำแล้วต้องดูแลรักษาอย่างดีเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้ อีกหนึ่งประเภทนั้นคือการเลเซอร์ที่ไม่ทำให้เกิดแผลหรือผิวหนังลอก ซึ่งแบบนี้นั้นจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาปากเหี่ยวย่นไม่ค่อยมาก แม้จะไม่ทำให้เกิดแผล แต่ก็ยังมีข้อเสียคือต้องทำซ้ำหลายครั้งจึงจะเริ่มเห็นผล ไม่เห็นผลเร็วทันตาเหมือนกับเลเซอร์ประเภทแรก

✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿ ✿


สรุป

ยอมรับเลยว่าไม่รู้ถึงสาเหตุของ ริมฝีปากย่น จากการดื่มน้ำ ซึ่งพอมารู้แล้วต้องรีบกลับไปปรับพฤติกรรมด่วนๆ และอยากมาแชร์ให้กับชาวซิสเร็วๆ ยิ่งเฉพาะใครที่ชอบดื่มน้ำจากปากขวดหรือหลอด เพราะการดื่มลักษณะแบบนี้นั้นมักจะต้องทำปากจู๋เป็นประจำจนทำให้เกิดรอยย่นบนริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวแล้ว แต่สำหรับใครที่ดื่มแก้วก็ไม่อาจหลีกปัญหานี้พ้น เพราะปากแก้วก็คล้ายกับปากขวดน้ำเช่นกัน เพียงแค่องศาและความกว้างไม่เท่ากัน ฉะนั้นแล้วเราอาจจะค่อยๆ ปรับพฤติกรรมกันไป หรือหาวิธีดื่มให้ไม่กระทบเรานั่นเอง หรือใครที่มีงบก็สามารถเข้าทำหัตถการต่างๆ ตามที่ได้แนะนำกันได้เลย ซึ่งวิธีเหล่านั้นนอกจากจะทันใจแล้วก็ยังช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงปากของชาวซิสได้ด้วย แต่ก่อนไปทำอย่าลืมศึกษาและดูรีวิวคลินิกนั้นๆ ให้รอบคอบกันด้วยน้า เพราะการทำหัตถการเหล่านี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างสูงเพื่อความปลอดภัยและลดปัญหาตามหลังมานั่นเอง ฉะนั้นอย่าลืมเลือกให้ดีและศึกษาพวกข้อมูลเบื้องต้นกันไปด้วยนะ โดยเฉพาะพวกแบรนด์ที่จะนำมาฉีดใส่ปากเรานั่นเอง



บทความอื่นๆ ที่ซิสไม่ควรพลาด






เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้