1. SistaCafe
  2. กินยาคุมแล้วเป็นฝ้า ทำยังไงดี พร้อมวิธีเลือกยาคุมที่ช่วยลดการเกิดฝ้า

เซฮัลโหลค่ะชาวซิส ตอนนี้มีใครกำลังประสบปัญหา กินยาคุมแล้วเป็นฝ้า อยู่หรือเปล่าคะ? เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า เอ…แค่กินยาคุมก็เป็นฝ้าได้ มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ ต้องบอกว่าเป็นไปได้ค่ะ และมีหลายคนที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ด้วย! อย่างงั้นก็แย่เลยสิ แสดงว่าคนที่กินยาคุมต้องทนมีฝ้าเป็นปื้น ๆ ไปตลอดใช่ไหม ขอบอกว่าไม่เสมอไปค่ะ เพราะปัญหานี้มีทางแก้! และวันนี้ CutenessCorner เลยจะขอพาเพื่อน ๆ ไปเจาะสาเหตุว่าทำไมถึงกินยาคุมแล้วเป็นฝ้า และก็ไม่พลาดที่จะนำวิธีรักษาฝ้ามาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย ตามมาดูได้เลยนะคะ!


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2F23a64001-486d-4363-9388-dbe9709db9f3.png?v=20240306200424&ratio=1.000

ฝ้าคืออะไร? เกิดจากสาเหตุใดบ้าง?

ฝ้า คือ ภาวะที่ผิวหนังมีสีน้ำตาลเข้มขึ้นเป็นหย่อมๆ บนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม จมูก หน้าผาก และริมฝีปากบนค่ะ ซึ่งฝ้าเกิดจากการที่เมลาโนไซต์ในผิวหนังผลิตเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดการสะสมของเมลานินในชั้นผิวหนังนั่นเองค่ะ


สาเหตุที่ทำให้เป็นฝ้ามีหลายอย่างด้วยกันดังนี้ค่ะ

1. อายุมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสีในผิวหนังจะลดลง ทำให้เกิดการสะสมของเมลานินได้ง่ายขึ้นค่ะ

2. กรรมพันธุ์ เพื่อน ๆ ที่มีประวัติครอบครัวเป็นฝ้า มีความเสี่ยงที่จะเกิดฝ้าได้มากกว่าคนทั่วไปค่ะ

3. ยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดบางชนิดมีฮอร์โมนบางชนิดที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ค่ะ โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่มีความเสี่ยงอยู่แล้วต้องระวังเลย

4. แสงแดด แสงแดดเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าเลยค่ะ เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดจะกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเมลานินมากขึ้นนั่นเอง

5. ผิวหนังอักเสบ การอักเสบของผิวหนัง เช่น สิว ผื่นแพ้ หรือแผลจากการบาดเจ็บ ก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้

6. เครื่องสำอาง เครื่องสำอางบางชนิดมีส่วนผสมที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เล่นกันค่ะ โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารเคมีบางชนิด


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2Fa551a118-f588-44b2-a5cd-2ad51fc92af6.png?v=20240306200424&ratio=1.000

ทำไมกินยาคุมแล้วเป็นฝ้า? ในยาคุมมีอะไรกันนะ?

เพื่อน ๆ ที่รับประทานยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะยาคุมกำเนิดที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเสี่ยงเป็นฝ้าเอามาก ๆ ค่ะ เพราะยาคุมจะเพิ่มระดับเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในร่างกาย ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีในผิวหนังจนเกิดฝ้าสีเข้มขึ้นมาเป็นหย่อม ๆค่ะ บางคนหนักหน่อยก็จะเป็นฝ้าตั้งแต่รับประทานยาคุมครั้งแรกกันเลยทีเดียว


ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2F5ffacfdf-88a3-4d3c-a589-658d8ff86b2d.png?v=20240306200425&ratio=1.000

ยาคุมแบบไหนกินแล้วไม่เกิดฝ้า?

หากเพื่อน ๆ เป็นหนึ่งคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดแล้วเป็นฝ้าหรือกำลังจะลองรับประทานยาคุมแต่ไม่อยากให้เกิดฝ้า ขอแนะนำให้เลือกรับประทานยาคุมต่อไปนี้ได้เลยค่ะ


1. ยาคุมที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ

อย่างที่เพื่อน ๆ ทราบกันดีว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานิน อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า ดังนั้นยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำจะไม่ทำให้เกิดฝ้าค่ะ โดยยาคุมชนิดนี้มักมีฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยกว่า 20 ไมโครกรัมต่อเม็ด หรือที่เขียนข้างกล่องตรงส่วนผสมว่ามีเอทินิลเอสตราไดออล (Ethinyl estradiol) 0.02 มิลลิกรัมนั่นเอง


2. ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยว ที่ประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจน

ยาคุมฮอร์โมนเดี่ยวที่มีเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสโตเจนจะไม่กระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานิน อันเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่าย รวมถึงเพื่อน ๆ ที่แพ้ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็สามารถรับประทานได้เช่นกันค่ะ


วิธีรักษาฝ้าให้หน้ากลับมาสวยใส

การรักษาฝ้ามีหลายวิธีด้วยกันเลยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของฝ้านั่นเอง ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถนำวิธีรักษาฝ้าต่อไปนี้กลับไปใช้ได้เลยค่ะ


1. ใช้ครีมทาฝ้า

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2F8fe92796-5e9e-457f-988c-6b3f35210106.png?v=20240306200425&ratio=1.000

https://sistacafe.com/summaries/97029

มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการผลิตเมลานิน เช่น ไฮโดรควิโนน, กรดอะเซลาอิก, วิตามินซี และไนอาซินาไมด์ค่ะ ซึ่งครีมเหล่านี้สามารถช่วยลดความเข้มของฝ้าและทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้นได้ด้วย


2. เลเซอร์ฝ้า/เลเซอร์หน้าใส

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2Fd21b4bd5-8dcd-4dc9-b039-c81551d4d390.png?v=20240306200425&ratio=1.000

การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เลเซอร์ฝ้าหรือ https://sistacafe.com/summaries/97792 เป็นวิธีที่นิยมสุด ๆ เลยค่ะ ซึ่งเลเซอร์จะปล่อยพลังงานเข้าไปในผิวหนังและทำลายเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้าจางหายไปนั่นเอง ซึ่งการรักษาด้วยเลเซอร์อาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ


3. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2F4d237d8b-20ec-4565-8d37-f93622fe7901.png?v=20240306200426&ratio=1.000

การป้องกันผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาฝ้าเลยค่ะ เพราะแสงแดดสามารถกระตุ้นการผลิตเมลานิน ซึ่งจะทำให้เป็นฝ้าหนักขึ้นไปอีก ดังนั้น เพื่อน ๆ ควรทากันแดด https://sistacafe.com/summaries/98046 ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป อย่าสวมหมวกและเสื้อผ้าที่สามารถกันแสงแดดเมื่ออยู่กลางแจ้งด้วยนะคะ


4. เลือกใช้ยาคุมกำเนิด

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F98296%2F7065f801-06d1-425e-834f-988cd8605769.png?v=20240306200426&ratio=1.000

https://sistacafe.com/summaries/94467 ยาคุมบางชนิดสามารถกระตุ้นการผลิตเมลานินได้ค่ะ ดังนั้น หากเพื่อน ๆ มีฝ้าอยู่แล้ว อาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิดหรือเปลี่ยนไปใช้ยาคุมกำเนิดชนิดอื่นแทนค่ะ


สรุปส่งท้าย

และก็จบไปแล้วค่ะกับการเจาะสาเหตุว่าทำไม กินยาคุมแล้วเป็นฝ้า เพื่อน ๆ คงได้คำตอบกันไปแล้วใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้วถ้าเราอยากคุมกำเนิดด้วยการกินยาคุมควบคู่ไปกับการมีใบหน้าที่สดใสไม่หมองคล้ำก็สามารถเลือกยาคุมที่เหมาะสมได้เลย ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นฝ้าจากการกินยาคุมไปแล้วก็หายห่วงได้แล้วนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้มีวิธีรักษาฝ้าอยู่เพียบ ยังไงลองเอากลับไปใช้กันน้า สำหรับวันนี้ CutenessCorner ต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้กลับมาเจอกันใหม่ในบทความหน้า ที่ SistaCafe เช่นเคยนะคะ บ๊ายบาย


บทความแนะนำที่ซิสต้องไม่พลาด

https://sistacafe.com/summaries/87586

https://sistacafe.com/summaries/96192

https://sistacafe.com/summaries/93503

https://sistacafe.com/summaries/97813


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้