1. SistaCafe
  2. ไขความสงสัย 🤔 คลีนซิ่ง vs คลีนเซอร์ต่างกันยังไง ? แล้ววิธีใช้ล่ะต่างกันมั้ย ?

สวัสดีค่าชาวซิสสสสสสสสสสสสสสสส ♥ไหนใครเป็นมือใหม่ในการใช้สกินแคร์ยกมือขึ้นหน่อยค่าฮิ้วววว~ เชื่อเลยว่าหลาย ๆ คนที่เป็นมือใหม่จะต้องมีศัพท์สกินแคร์ที่ฟังแล้วงงตึ้บมึนไปหมดเลยใช่รึปะ? โดยเฉพาะคำพื้นฐานอย่าง' คลีนซิ่ง 'และ' คลีนเซอร์ 'มีคำว่าคลีนเหมือนกัน ก็น่าจะทำความสะอาดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แล้วมันต่างกันยังไง? ใช้ยังไงบ้างล่ะเนี่ย เห็นมั้ยถึงจะบอกว่าเป็นคำพื้นฐานแต่คนที่เพิ่งเข้าวงการมันก็ต้องมีงงมีมึนบ้างอะเนอะ วันนี้เราก็เลยจะมาตอบข้อข้องใจให้มือใหม่ในวงการนี้กัน เอาละ! พร้อมไปดูกันรึยังเอ่ยว่าแต่ละตัวเป็นอะไร ใช้ยังไงบ้าง?ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาเลยจ้า

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2F4fa77a64-1302-4130-9cfd-54ec89143e9a?v=20240313153006&ratio=1.000

☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁


คลีนซิ่งVSคลีนเซอร์คืออะไร? แล้วใช้ต่างกันยังไงบ้างนะ? •


คลีนซิ่งคืออะไรกันนะ ?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2F082e3105-9600-4481-9322-34bd6f9e2377.jpeg?v=20240313153008&ratio=1.000

มาเริ่มกันที่คลีนซิ่ง ( Cleansing )กันเลยค่า จริง ๆ แล้วคลีนซิ่งจะต้องอ่านว่า' เคลนซิ่ง 'ถึงจะถูกต้องนะคะ เพราะ Cleansing มาจากคำว่า Cleanse ซึ่งอ่านว่าเคลนนั่นเอง ไม่ใช่คลีนน้า แต่คนไทยเรียกติดปากกันว่าคลีนซิ่ง งั้นใช้คำนี้เพื่อความเข้าใจง่ายแล้วกันเนอะ คลีนซิ่งคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง แล้วก็มีอีกชื่อที่ทุกคนมักจะเรียกกันนั่นก็คือ' รีมูฟเวอร์ ( Remover ) 'นั่นเองค่ะ ถ้าเราแต่งหน้าก็จะต้องใช้เจ้าตัวนี้ในการทำความสะอาดก่อนเน้อ ถ้าใครแต่งตาด้วยก็จะมี Eye Remover เฉพาะด้วยนะคะ แต่ ๆ เจ้าคลีนซิ่งเนี่ยไม่ได้ทำความสะอาดแค่เพียงเครื่องสำอางเน้อพวกฝุ่นหรือมลภาวะที่เกาะติดบนผิวหน้ารวมไปถึง' ครีมกันแดด 'ก็สามารถทำความสะอาดได้เช่นกันค่ะ แอบกระซิบว่าถ้าใครทากันแดดบนหน้าควรใช้คลีนซิ่งล้างหน้าด้วยนะคะ ไม่งั้นผิวเราจะอุดตันแล้วก็เกิดสิวได้น้า ส่วนคลีนซิ่งมีแบบไหนให้เลือกใช้บ้างก็เลื่อนลงมาดูด้านล่างกันค่า!


แล้วคลีนซิ่งมีกี่แบบให้เราเลือกใช้กันล่ะ?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2F791fc923-8a3c-4ca3-9ee1-be70ec7b1cab.jpeg?v=20240313153008&ratio=1.000

คลีนซิ่งหรือเคลนซิ่งมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ตามสภาพผิวเลยค่ะ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างทั้งเนื้อผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้เลย จะมีแบบไหนบ้างมาดูกัน!1.Cleansing Water: แบบน้ำใช้คู่กับสำลีเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมัน2.Cleansing Oil: แบบน้ำมัน ใช้คู่กับสำลีหรือใช้มือเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง3.Milk Cleansing: เป็นตัวที่ผสมน้ำและน้ำมันเขาด้วยกันสีจะคล้ายน้ำนม ใช้ได้กับทุกสภาพผิว4.Cleansing Cream / Balm: เนื้อครีมหรือบาล์มใช้มือในการถูกวน เหมาะกับทุกสภาพผิว5.Dual Phase Cleansing: เป็นเนื้อน้ำกับน้ำมันแยกชั้นกันเขย่าก่อนใช้ ช่วยล้างเครื่องสำอางหมดจดมากกว่าแบบน้ำ6.Lotion Cleansing: แบบโลชันเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง ใช้มือในการนวดล้างเครื่องสำอาง7.Cleansing Pad / Cotton: แบบสำลีหรือแผ่นที่ชุบคลีนซิ่งมาแล้วใช้งานได้ทันที เหมาะกับเวลาเร่งรีบครบทั้ง 7 แบบแล้วใครแต่งหน้าหนัก ๆ แนะนำให้ใช้พวกที่มีน้ำมันผสมนะคะ จะล้างง่ายขึ้น ส่วนใครแต่งหน้าไม่หนักใช้แบบน้ำธรรมดาก็ได้ค่ะ เลือกใช้กันตามสะดวกเล้ย :-D


แล้วคลีนเซอร์คืออะไร?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2F50175030-4257-4d96-b8b8-af5bfd2859fa.jpeg?v=20240313153009&ratio=1.012

มีคลีนซิ่งแล้วก็ต้องมีคลีนเซอร์ ( Cleanser )ด้วย แน่นอนค่ะว่ามาจากคำว่า Cleanse เหมือนกัน คลีนเซอร์ก็ต้องอ่านว่า' เคลนเซอร์ 'เช่นกัน แต่ใด ๆ คือเราจะเรียกว่าคลีนเซอร์เพื่อความเคยชินละกันเนอะ คลีนเซอร์จะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ต้องใช้น้ำล้างออก หรือที่เราชอบเรียกกันว่า' โฟมล้างหน้า 'นั่นเองค่ะ เรามักจะใช้เจ้าตัวนี้หลังใช้คลีนซิ่งล้างหน้าไปแล้ว เพราะว่าเจ้าคลีนเซอร์ไม่สามารถที่จะล้างเครื่องสำอางออกได้หมดจดเราจึงต้องใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดก่อนนะคะ เมื่อใช้คลีนซิ่งเสร็จก็มาใช้คลีนเซอร์ในการทำความสะอาดซ้ำอีกรอบ ผิวของเราจะได้สะอาด ไม่อุดตัน สิวก็จะไม่ตามมา การใช้คลีนซิ่งแล้วต่อด้วยคลีนเซอร์จะเรียกว่า' Double Cleansing 'ซึ่งจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นคลีนซิ่งกับคลีนเซอร์ก็ได้นะคะ เพียงแต่ว่าถ้าทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ 2 ชนิดเรามักจะเรียกว่าดับเบิลคลีนซิ่งนั่นเองค่า ส่วนคลีนเซอร์จะมีแบบไหนให้ลองใช้บ้างก็ตามมาดูกันเลยจ้า :-)


งั้นคลีนเซอร์มีกี่แบบให้เลือกใช้นะ?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2Fd0186a1f-cd22-4b28-a56c-dc8a44b77f81.jpeg?v=20240313153009&ratio=1.000

คลีนเซอร์หรือเคลนเซอร์ก็มีหลากหลายเลยค่ะ แล้วก็เหมาะกับสภาพผิวที่แตกต่างกันด้วย แต่จะมีอะไรบ้างก็มาดูกันเลยจ้า1.Foam Cleanser:เนื้อโฟมทั่วไปบางตัวอาจจะต้องใช้ที่ตีโฟมเพื่อให้ได้ฟองเยอะ ๆ จะทำความสะอาดได้ดีขึ้นอีกด้วย เหมาะกับทุกสภาพผิว2.Foam Bead Scrub:เนื้อโฟมที่มีเม็ดสครับไม่ค่อยเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและไม่ควรใช้บ่อย3.Gel Cleanser:เนื้อเจลจะเหมาะกับผิวมันและผิวผสม เพราะจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน คล้ายกับสบู่แต่มีค่าความด่างน้อยกว่า4.Mousse Cleanser:เนื้อมูสจะมีความเหลวกว่าแบบเจลหลาย ๆ แบรนด์ก็จะทำขวดแบบปั๊มฟองโฟมมาให้เลยด้วย ใช้งานสะดวกสุด ๆ เหมาะกับทุกสภาพผิวคัดมาเฉพาะตัวที่เราน่าจะคุ้นหูคุ้นตาและเห็นกันบ่อย ๆ ใครชอบแบบไหนก็ไปหาซื้อกันได้นะคะพยายามเลือกโฟมล้างหน้าที่ไม่มีสารซัลเฟตนะคะ ผิวเราจะได้ไม่แห้งตึงด้วย > _ <


คลีนซิ่งกับคลีนเซอร์ใช้ต่างกันไหม?


งั้นใช้แค่คลีนซิ่งตัวเดียว หรือ คลีนเซอร์ตัวเดียวได้รึเปล่า?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2Fc3c06e28-ddbb-400f-8657-b32545911223.jpeg?v=20240313153010&ratio=1.000ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2Fc86d4929-5974-407a-b7c8-df4704456a81.jpeg?v=20240313153010&ratio=1.000

อย่างที่บอกว่ามันเป็นการทำความ

ใช้แค่ตัวใดตัวหนึ่งได้ไหม ตอบให้เลยนะคะว่า

ยังไงเราก็ควรใช้ทั้ง 2 ตัวอยู่ดี

ค่ะ เพราะอย่างที่บอกเลยว่าคลีนซิ่งจะใช้ในการทำความสะอาดเครื่องสำอาง มลภาวะพวกฝุ่นต่าง ๆ และครีมกันแดดได้สะอาดหมดจดมากกว่าคลีนเซอร์ที่สามารถล้างพวกฝุ่น มลภาวะและคราบเหงื่อบนใบหน้าได้เท่านั้น ทางที่ดีเราควรจะใช้คลีนซิ่งในการทำความสะอาดใบหน้าก่อนพยายามล้างหรือเช็ดให้สะอาดที่สุดนะคะ ถ้าใช้สำลีก็เช็ดจนกว่าสำลีจะขาวเลยก็จะดีที่สุดค่ะ เสร็จแล้วตอนอาบน้ำก็ใช้คลีนเซอร์ในการล้างหน้าอีกครั้งวิธีการล้างพยายามล้างจากกลางหน้าออกไปหากรอบหน้านะคะ จะเป็นวิธีการล้างตามแนวรูขุมขนที่สะอาดที่สุด เท่านี้ผิวเราก็จะได้รับการทำความสะอาดแบบเกลี้ยงกริ๊บแล้วละค่ะ


แล้วเราควรใช้โทนเนอร์ซ้ำอีกครั้งไหมอะ?

ภาพประกอบบทความ:sistacafe-assets:____%2Fc%2F90128%2Fe8063331-d50c-41ac-98f4-3d406e5b6576.jpeg?v=20240313153010&ratio=1.083

ทำความสะอาดมาแล้ว 2 ขั้นตอนต้องใช้โทนเนอร์อีกไหมน้อ?อันนี้แล้วแต่สะดวกเลยค่า แต่โทนเนอร์ก็เป็นอีกตัวที่ช่วยทำความสะอาดผิวเหมือนกันนะเออ แถมยังช่วยทำให้ผิวของเราเตรียมรับการบำรุงแบบเต็มเปี่ยมสุด ๆซึ่งโทนเนอร์แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติต่างกันไป บางตัวช่วยความชุ่มชื้น ความกระจ่างใส ลดสิว กระชับรูขุมขนอีกด้วย ก็คือพูดง่าย ๆ ว่าใครอยากให้ผิวสะอาดขั้นสุด บำรุงได้แบบจัดเต็มจุก ๆ ก็ควรจะมีhttps://sistacafe.com/summaries/88951สักขวดไว้ใช้ก็ดีน้า แอบกระซิบว่าโทนเนอร์ใช้งานได้เยอะมากทั้งเอามาเช็ดทำความสะอาดผิว ทั้งเป็นน้ำตบ ทั้งเอาใส่แผ่นสำลีมามาสก์หน้า หรือแม้กระทั่งใส่ขวดสเปรย์แล้วเอามาฉีดในหน้าร้อนก็ทำได้เหมือนกัน บอกเลยว่าซื้อไว้ดีกว่านะเออ> _ <


☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁


ได้รู้เรื่องราวของคลีนซิ่งกับคลีนเซอร์กันไปแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลย เป็นยังไงกันบ้างคะ... ตอนนี้เริ่มอยากจะไปหาซื้อมาตุนไว้ใช้กันแล้วใช่ม้า?เชื่อเลยว่ายังมีหลาย ๆ คนที่ใช้แค่คลีนเซอร์ในการทำความสะอาดเยอะมาก ๆเพราะคิดว่ามันเพียงพอกับผิวแล้ว แล้วพอใช้แค่คลีนเซอร์สิวก็ยังขึ้น ตอนนี้น่าจะได้คำตอบกันแล้วใช่ไหมละคะว่าทำไมหน้าเราถึงสิวขึ้นเยอะ เป็นเพราะเราไม่ดับเบิลคลีนซิ่งนั่นเอง ยังไงก็พยายามใช้ทั้ง 2 ตัวเลยน้า ผิวเราจะได้ทำความสะอาดได้แบบหมดจด แล้วก็ถ้าหากว่าใช้คลีนซิ่งหรือคลีนเซอร์ตัวไหนเสร็จแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าตึง ๆ เอี๊ยด ๆ ละก็...แสดงว่ามันไม่เหมาะกับผิวเราเน้อ ที่เราหน้าตึง ๆ เพราะผิวเริ่มแห้งเกินไปนั่นเองค่ะ ดังนั้นเนี่ยถ้าใช้แล้วไม่เวิร์กแนะนำให้เปลี่ยนน้า ผิวของเราจะได้ไม่พังด้วยเอาละ ตอนนี้หมดเวลาแล้วคงต้องลากันไปก่อน บ๊ายบายนะคะ ♥

ปกบทความvv


☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁ ☁

Designer :namoodong

Writer :saturnxjan_


เว็ปไซต์นี้ใช้คุกกี้

SistaCafe ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา และ นโยบายการใช้คุกกี้