อีกหนึ่งปัญหาระดับชาติในช่วงนี้ที่สร้างความกังวลให้หลายๆ คนคงหนีไม่พ้นเรื่อง " ฝุ่น PM 2.5 " ไม่ใช่แค่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่หลายจังหวัดของประเทศไทยก็พบว่า มีค่าฝุ่นที่เกินเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพ หนักขนาดที่ว่ามองเห็นความหนาแน่นของฝุ่นด้วยตาเปล่า จนอาจสับสนไปว่าเป็นหมอกหน้าหนาวกันเลยทีเดียว ความน่ากลัวของเจ้าฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะสิ่งนี้คือ มลพิษที่มีขนาดเล็กมากๆ ซะจนโพรงจมูกของเราไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้ จึงสามารถแพร่กระจายเข้าไปในร่างกายของเรา และหากสะสมไปในระยะยาว ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในเรื่องระบบทางเดินหายใจ รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดอีกด้วย อันตรายจริงๆ นะทุกคน (Y^Y) ดังนั้นวันนี้เราเลยจะพาทุกคนมารู้ Steps ฟื้นฟูผิวจากฝุ่น ทำตามง่าย
ฝุ่น PM 2.5 ตัวร้ายจิ๋วทำลายผิวสวย

ไม่ใช่แค่ภายในร่างกายเท่านั้น แต่ภายนอกก็เสี่ยงด้วยเช่นกัน ด่านแรกที่ต้องปะทะกับ ฝุ่น PM 2.5 ก็คือ "ผิวหน้า" ของเรา เพื่อนๆ รู้ไหมว่าฝุ่น PM2.5 สามารถทำร้ายผิวได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และ เรื้อรังเลยนะ เพราะฝุ่น PM 2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวหนังโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคืองผิวได้เฉียบพลัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง , สิว จะทำให้ยิ่งระคายเคือง รู้สึกคันมากขึ้น และเป็นผื่นกำเริบขึ้นได้ด้วย
แต่ที่น่าห่วงคือการที่เราต้องสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานไปเรื่อยๆ แบบนี้ จะยิ่งทำให้ผิวเสื่อมชราได้เร็วยิ่งขึ้น มีงานวิจัยพบว่าฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ส่งผลร้ายต่อเซลล์ผิวหนังของเรา ทั้งในกระบวนการสร้างเซลล์ รวมถึงเรื่องจุดด่างดำบนชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดจุดด่างดำ เกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้าเพิ่มได้มากขึ้น และที่น่ากลัวสุดๆ คือส่งผลต่อความเสื่อมของผิวหนังเรา นั้นหมายความว่าผิวหน้าของเราจะแก่เร็วขึ้นนั่นเอง!!
รู้แบบนี้แล้วเรายิ่งต้องรีบหาวิธีรับมือและป้องกันผิวจากฝุ่น PM 2.5 ตัวร้าย ไม่ให้มาพรากผิวใสอ่อนวัยไปจากเราได้ จะมีเสต็ปการดูแลยังไงบ้าง บทความนี้รวมไว้ให้ซิสทุกคนแล้วค่า
10 Steps ฟื้นฟูผิวจากฝุ่น สร้างเกราะป้องกันให้แข็งแรง
1. สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น PM 2.5

ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่น PM.25 ได้ เช่น หน้ากาก N95 เป็นต้น เพราะการสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะอยู่กลางแจ้ง นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM.25 เข้าไปในร่างกายของเราได้แล้ว หน้ากากอนามัยยังช่วยปกป้องผิวหน้าของเราไม่ให้สัมผัสโดนกับฝุ่นโดยตรง ก็จะช่วยลดการระคายเคืองผิวจากฝุ่นได้ ที่สำคัญอย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยให้แนบไปกับใบหน้ามากที่สุดด้วยนะ
_____________________________________
2. สวมใส่เสื้อผ้ามิดชิด

สำหรับใครที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น เป็นโรคผิวหนัง หรือผิวบอบบาง ควรสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดปิดผิวให้มากที่สุดในช่วงนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวของเราสัมผัสกับฝุ่นบ่อยๆ โดยตรง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา
_____________________________________
3. ทำความสะอาดผิวให้สะอาด

เรียกว่าผิวของเราสัมผัสกับฝุ่นละอองแทบจะตลอดเวลา การทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และดูแลความสะอาดผิวหน้าให้ครบทุกขั้นตอน รวมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดล้ำลึกเข้ากับสภาพผิวของเรา เพื่อช่วยกำจัดฝุ่น PM2.5 และมลพิษอื่น ๆ ที่อาจเกาะติดอยู่กับผิวได้
_____________________________________
4. ทานอาหารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันจากภายใน

อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้จากพวกมลพิษ ฝุ่น หรือแม้แต่ควันบุหรี่ แม้จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่คอยตรวจจับอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็อาจมีบางส่วนที่เล็ดลอดและตกค้างไปทำลายเซลล์อื่น ๆ ต่อได้ ดังนั้นการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ผิวของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซี จะมีในอาหารจำพวกผักและผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นแหล่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง หากทานเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันและกู้ผิวของเราได้นะ
_____________________________________
5. ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวสม่ำเสมอ

ยิ่งผิวเราสัมผัสกับฝุ่นมากเท่าไร เซลล์ผิวของเราก็จะถูกทำลายและอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง อักเสบ และเป็นสาเหตุของการเกิดสิว รวมถึงผิวเสื่อมชราในที่สุด การบำรุงผิวสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการใช้ครีมหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น จะทำให้ผิวแข็งแรง และช่วยสร้างเกราะป้องกันให้กับผิวได้ด้วย ดังนั้นเราจึงควรบำรุงผิวเป็นประจำให้ครบทุกขั้นตอน เพื่อเตรียมสภาพผิวให้พร้อมรับมือกับฝุ่น PM 2.5
_____________________________________
6. ปกป้องผิวจากแสงแดด ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

วิธีดูแลผิวให้รอดพ้นจากทุกๆ ปัญหาผิวที่สำคัญอันดับแรกคือ การปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะในแสงแดดนั้นมีรังสียูวีตัวการหลักที่ทำร้ายผิวของเรา ทำให้ผิวยิ่งอ่อนแอ หากปล่อยให้ผิวรับทั้งแสงแดดและฝุ่นมลพิษรับประกันเลยว่าผิวของเราพังแน่นอน
ดังนั้นสาวๆ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า spf 50+++ เพราะ SPF 50 สามารถดูดซับรังสี UVB ได้ 98% และปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้มากกว่าผิวปกติ 8 เท่า เหมาะกับแดดร้อนนรกแตกแบบบ้านเรา อีกอย่างควรจะทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวของเราเอาไว้ได้ตลอดวัน อย่าลืมหลีกเลี่ยงการปะทะกับแสงแดดด้วยการสวมหมวกหรือแว่นตาช่วยป้องกันอีกชั้นด้วยนะ
_____________________________________
7. มาส์กหน้ากู้ผิว

ช่วงนี้ผิวต้องปะทะทั้งฝุ่น มลพิษ และแสงแดด แค่ทาครีมบำรุงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คงต้องใช้ตัวช่วยอย่าง การมาส์กหน้าเพิ่มอีกวิธี เพราะการมาส์กหน้าคือการบำรุงผิวที่ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกกว่าทาครีมปกติ ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยลดปัญหาผิว สาวๆ จึงควรมาสก์หน้าควบคู่ไปกับการทาครีมด้วยนะ เป็นการเพิ่มเกราะป้องกันอีกชั้นในการดูแลผิวของเรา
_____________________________________
8. เลือกใช้สกินแคร์ Anti-Pollution เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5

สกินแคร์ Anti-Pollution คือ สกินแคร์ที่มีสารสำคัญที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายผิวให้เสื่อมโทรมลง ในสถานการณ์ที่ฝุ่น PM 2.5 หนักหนาขนาดนี้ สาวๆ ควรมองหาสกินแคร์ Anti-Pollution มาลองใช้กู้ผิวดูอีกทาง เพื่อรับมือกับปัญหาผิวทั้ง สิว ฝ้า กระ หรืออื่นๆ ที่อาจเกิดตามาจากมลพิษในแต่ละวันให้ลดลง
_____________________________________
9. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย

อีกสิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อร่างกาย เพราะนอกจากน้ำเปล่าจะช่วยให้สุขภาพภายในดีแล้ว ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ยิ่งผิวชุ่มชื้นมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นอีกด้วย การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นสำหรับผู้หญิง ควรดื่มวันละประมาณ 2.7 ลิตร (ประมาณ 11.5 แก้ว) และผู้ชาย ควรดื่มวันละประมาณ 3.7 ลิตร (ประมาณ 15.5 แก้ว) ใครที่ยังดื่มไม่ถึง หลังจากนี้ต้องพยายามดื่มให้เพียงพอต่อร่างกายแล้ว
_____________________________________
10. ลดการสัมผัสฝุ่น

สำหรับใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือมีโรคประจำตัวที่เกิดการแพ้จากฝุ่นได้ ช่วงนี้อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมภายนอก หรืองดไปในบริเวณที่ค่าฝุ่นสูงๆ เพื่อลดการสัมผัสฝุ่นโดยตรง จะช่วยป้องกันสุขภาพร่างกายของเราเอาไว้ก่อนได้นะคะ
ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ดูจะยังไม่มีวี่แววจะหายไปในเร็ววัน เราผู้ต้องออกไปใช้ชีวิตและเผชิญฝุ่นต่อเนื่องตลอดเวลา คงทำได้แค่ระมัดระวัง และป้องกันสุขภาพของเราด้วยตัวเองให้ดีที่สุด อย่าลืมทำให้ร่ายกายแข็งแรงเข้าไว้ ส่วนเพื่อนๆ ก็ลองเอาวิธี ฟื้นฟูผิวจากฝุ่น ในช่วงที่ฝุ่นชุกชุมแบบนี้ไปทำตามดูนะ รับรองว่าผิวแข็งแรงพร้อมสู้ทุกมลภาวะแน่นอนค่า!! ><